น้ำมันถั่วเหลืองเป็นน้ำมันพืชที่สกัดจากเมล็ดพืชถั่วเหลือง ระหว่างปี 2561-2562 มีการผลิตน้ำมันถั่วเหลืองประมาณ 62 ล้านตันทั่วโลก ทำให้เป็นหนึ่งในน้ำมันทำอาหารที่ใช้กันทั่วไปมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ และสามารถใช้ในวิธีการทำอาหารที่หลากหลายรวมถึง การทอด การอบ และการคั่ว นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับประโยชน์ด้านสุขภาพหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงหัวใจ ผิวหนัง และกระดูก
นี่คือ 6 คุณประโยชน์ของน้ำมันถั่วเหลือง
มีจุดเดือดสูง
จุดเดือดของน้ำมันคืออุณหภูมิที่ไขมันเริ่มสลายตัวและออกซิไดซ์ ส่งผลให้เกิดการก่อตัวของสารประกอบที่เป็นอันตราย และก่อให้เกิดโรคที่เรียกว่าอนุมูลอิสระ โดยน้ำมันถั่วเหลืองมีจุดเดือดที่ค่อนข้างสูงประมาณ 450 ° F (230 ° C)
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ที่ไม่ผ่านการกลั่นมีจุดเดือดประมาณ 375 ° F (191 ° C) ในขณะที่น้ำมันคาโนลามีจุดเดือดที่ 428–450 ° F (220–230 ° C) สิ่งนี้ทำให้น้ำมันถั่วเหลืองเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับวิธีการทำอาหารที่มีความร้อนสูง เช่นการคั่ว การอบ การทอด และการผัด เนื่องจากมันสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้โดยไม่ถูกทำลาย
อุดมไปด้วยไขมันที่ดีต่อสุขภาพของหัวใจ
น้ำมันถั่วเหลืองส่วนใหญ่ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อหัวใจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประโยชน์หลายประการ ในความเป็นจริง การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันไม่อิ่มตัวในอาหารของคุณ อาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคหัวใจ
จากการศึกษา 8 ครั้งพบว่าเมื่อผู้เข้าร่วมแทนที่แคลอรี่ 5% ต่อวันจากไขมันอิ่มตัวด้วยไขมันไม่อิ่มตัว พวกเขามีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจลดลง 10% การเปลี่ยนไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันไม่อิ่มตัวอาจลดระดับคลอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี (ไขมันเลว) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคหัวใจ นอกจากนี้น้ำมันถั่วเหลืองยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งสามารถลดการอักเสบและป้องกันโรคหัวใจได้ด้วย
ช่วยเรื่องสุขภาพของกระดูก
น้ำมันถั่วเหลืองเพียง 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) บรรจุวิตามินเคถึง 25 ไมโครกรัม ตีเป็นประมาณ 20% ของปริมาณที่ต้องการในแต่ละวัน ในการได้รับเพียงครั้งเดียว
ในขณะที่วิตามินเคอาจเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องผลกระทบของการแข็งตัวของเลือด แต่มันยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเมทาบอลิซึมของกระดูก การวิจัยแสดงให้เห็นว่า วิตามินเคเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์โปรตีนเฉพาะ ที่มีความสำคัญต่อการรักษามวลกระดูกเช่น osteocalcin
จากการศึกษาแรกใน 2,591 คน พบว่าปริมาณวิตามินเคที่ลดลงมีความสัมพันธ์กับความหนาแน่นของกระดูกที่ลดลงในผู้หญิง การศึกษาถัดมาในผู้หญิง 440 คนพบว่า การทานวิตามินเค 5 มก. ต่อวันนั้นเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อการแตกหักของกระดูก
จากการศึกษาสัตว์พบว่า การให้น้ำมันถั่วเหลืองแก่หนูเป็นเวลา 2 เดือน ลดตัวบ่งชี้ของการอักเสบ และช่วยปรับสมดุลระดับแร่ธาตุในเลือดและกระดูกได้ แต่อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกมาก เพื่อประเมินผลของน้ำมันถั่วเหลืองต่อสุขภาพกระดูกในมนุษย์
มีกรดไขมันโอเมก้า 3
น้ำมันถั่วเหลืองมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละมื้อ น้ำมันถั่วเหลืองบางชนิดยังอุดมไปด้วยกรดสเตียริดอนิก แหล่งที่มาของกรดไขมันโอเมก้า3 นี้มีความถาวรและใช้งานได้ดีกว่าแหล่งอื่น
จากการศึกษา 12 สัปดาห์ใน 252 คน การบริโภคแคปซูลน้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ที่อุดมไปด้วยกรดสเตียริดอนิกต่อวัน เพิ่มระดับกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้
กรดไขมันโอเมก้า 3 เชื่อมโยงกับประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของหัวใจ การพัฒนาของทารกในครรภ์ การทำงานของสมองและภูมิคุ้มกัน การเพิ่มปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 ยังสามารถช่วยลดการอักเสบ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน แต่ข้อควรระวังคือ โปรดทราบว่าน้ำมันนี้มีสัดส่วนของกรดไขมันโอเมก้า 6 สูงกว่ากรดไขมันโอเมก้า 3
ในขณะที่คุณต้องการทั้งสองประเภท คนส่วนใหญ่ได้รับกรดไขมันโอเมก้า 6 มากเกินไปในอาหารของพวกเขาและโอเมก้า 3 ไม่เพียงพอ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การอักเสบและโรคเรื้อรังได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการดีที่สุดที่จะจับคู่น้ำมันถั่วเหลืองกับอาหารอื่น ๆ ที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน เมล็ดแฟลกซ์ และวอลนัท เพื่อให้ได้รับโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอ
ส่งเสริมสุขภาพผิว
น้ำมันถั่วเหลืองมักจะถูกพบในรายการส่วนผสมของเซรั่มดูแลผิว เจล และโลชั่น ซึ่งงานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า น้ำมันถั่วเหลืองอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิว ยกตัวอย่างเช่น การศึกษาใน 6 คน แสดงให้เห็นว่าการใช้น้ำมันนี้กับผิวของพวกเขาช่วยเพิ่มเกราะป้องกันตามธรรมชาติ และรักษาความชุ่มชื้น การศึกษาอื่นพบว่า การใช้น้ำมันถั่วเหลืองทาช่วยป้องกันการอักเสบที่เกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลตได้
น้ำมันถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นสารอาหารต้านการอักเสบที่สามารถช่วยบำรุงสุขภาพผิว การศึกษาแสดงให้เห็นว่าวิตามินอีอาจป้องกันความเสียหายของผิว และช่วยรักษาสภาพผิวบางอย่าง เช่นสิว และโรคภูมิแพ้ผิวหนัง
มีประโยชน์หลากหลายและใช้งานง่าย
น้ำมันถั่วเหลืองมีรสชาติและกลิ่นที่ไม่โดดเด่นนัก ทำให้ปรับเข้ากับสูตรอาหารที่ต้องการได้อย่างลงตัว ที่เรียกกันว่าน้ำมันทำอาหาร มันทำงานได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับน้ำส้มสายชู เกลือ และพริกไทยเพื่อทำให้น้ำสลัดง่ายๆ ต้องขอบคุณที่มีจุดเดือดสูง ที่ทำให้สามารถใช้แทนน้ำมันทำอาหารอื่นๆ ด้วยความร้อนสูง เช่น การทอด การอบ การคั่ว หรือการผัด เพียงใช้แทนส่วนผสมอื่นๆ เช่นน้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา หรือน้ำมันพืชในสูตรที่คุณชื่นชอบ
นอกเหนือจากการทำอาหารด้วยน้ำมันถั่วเหลืองแล้ว คุณสามารถนำไปใช้กับผมหรือผิวหนัง เพื่อทำหน้าที่เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติ นอกจากนี้บางคนใช้เป็นน้ำมันทาตัว โดยการนำไปเจือจางกับน้ำมันหอมระเหยก่อนนำไปใช้กับผิว
น้ำมันถั่วเหลืองเป็นน้ำมันทำอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพผิว ลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันการสูญเสียกระดูก และให้กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นมันมีจุดเดือดสูง และรสชาติที่เป็นกลางทำให้ง่ายต่อการรวมเข้ากับสูตรที่หลากหลาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพ
ที่มา healthline
(15045)