ห่างจากเรา 150 ปีแสงมีดาวแคระขาวที่รู้จักกันในนาม WDJ0551 + 4135 ซึ่งดาวแคระขาวส่วนใหญ่เป็นซากของดาวฤกษ์เช่นดวงอาทิตย์ของเรา เมื่อพวกมันเผาผลาญเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและชั้นนอกสุดแล้ว โดยปกติแล้วมันจะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาประมาณ 0.6 เท่าของดวงอาทิตย์ แต่ดาวดวงนี้มีมวลเป็น 1.14 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ของเรา นั่นคือมวลเฉลี่ยเกือบสองเท่าของดาวแคระขาว
นักดาราศาสตร์พบดาวฤกษ์นี้เป็นครั้งแรกในข้อมูลที่รวบรวมโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศ Gaia ขององค์การอวกาศยุโรปซึ่งเปิดตัวในปี 2013 ข้อมูลเพิ่มเติมถูกรวบรวมโดยกล้องโทรทรรศน์วิลเลียมเฮอร์เชล บนเกาะลาพัลม่าในสเปน ซึ่งช่วยให้นักดาราศาสตร์วิเคราะห์แสงที่มาจากดาวฤกษ์ได้
การวิเคราะห์นี้ช่วยให้พวกเขาพบสิ่งแปลกประหลาดอีกครั้ง ชั้นบรรยากาศของดาวนั้นบรรจุคาร์บอนจำนวนมาก
มาร์ค โฮลแลนด์ หัวหน้านักเขียนและนักวิจัยหลังปริญญาเอกของภาควิชาฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยวอร์วิกกล่าวว่า “ดาวดวงนี้โดดเด่นอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน คุณอาจคิดว่าจะเห็นชั้นนอกของไฮโดรเจนผสมกับฮีเลียมหรือการรวมกันของฮีเลียมและคาร์บอน แต่คงไม่คิดว่าจะเห็นการรวมกันของไฮโดรเจนและคาร์บอนในเวลาเดียวกัน เนื่องจากมีฮีเลียมหนาๆ อยู่ในนั้น จึงทำให้ดูไม่สมเหตุสมผล”
เมื่อพูดถึงดาว ดาวที่อายุมากกว่าจะโคจรเร็วกว่าดาวอายุน้อย พวกเขาระบุว่าดาวดวงนี้เคลื่อนที่เร็วกว่าดาวแคระขาวอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ ทำให้มีอายุมากกว่าที่ปรากฏในครั้งแรก
นักดาราศาสตร์จึงเริ่มตั้งคำถามว่า ดาวแคระขาวขนาดใหญ่พิเศษที่ผิดปกตินั้น มีดาวมากกว่าหนึ่งดวงหรือไม่ เนื่องจากปริมาณไฮโดรเจนและคาร์บอนน่าจะมาจากดาวสองดวงมากกว่าหนึ่งดวง
เมื่อดาวดวงหนึ่งในระบบดาวคู่ตายลง การตายของมันจะดึงดาวดวงที่สองเข้ามาใกล้ เพราะดาวดวงแรกหดตัว และวงโคจรของพวกมันก็จะแคบลง และสิ่งเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นกับดาวดวงที่สองด้วย กระบวนการนี้ใช้เวลาหลายพันล้านปี จนระยะห่างระหว่างดวงดาวจะลดลงและรวมดาวทั้งสองดวงเข้าด้วยกันในที่สุด
แต่การรวมกันของ WDJ0551+4135 นั้นแตกต่างจากดาวดวงอื่น เนื่องจากดาวสองดวงนี้มีขนาดเท่ากัน ซึ่งโดยปกติการรวมตัวจะเกิดขึ้นระหว่างดาวฤกษ์ที่มีมวลต่างกัน นอกจากนี้ยังรวมกันสร้างดาวแคระขาวขนาดใหญ่พิเศษแทนที่จะระเบิด นักวิจัยเชื่อว่าการรวมตัวของดาวน่าจะเกิดขึ้นเมื่อ 1.3 พันล้านปีก่อน ซึ่งหมายความว่าดาวทั้งคู่น่าจะมีอยู่เป็นพันล้านปีก่อนการรวมตัว
ทั้งสองเป็นดาวแคระขาวเพียงหนึ่งในไม่กี่คู่ที่ถูกรวมเข้าด้วยกัน และเป็นเพียงคู่เดียวที่มีองค์ประกอบเฉพาะนี้ แต่การสังเกตในอนาคตอาจเผยข้อมูลเพิ่มเติมให้กับเหล่านักดาราศาสตร์ได้
ที่มา cnn
(442)
