กระเจี๊ยบแดงมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศแอฟริกา ต่อมาได้แพร่กระจายอยู่ในเขตร้อนทั่วโลก กระเจี๊ยบแดงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากกว่าการเป็นสมุนไพร ในสมัยก่อนนั้น ไม่มีเชือกวัวเชือกควาย ชาวบ้านจะลอกเปลือกของต้นกระเจี๊ยบแดงมาฟั่น ทำเป็นเชือกไว้ล่ามวัวควาย เพราะเหนียวมาก ใช้ได้เหมือนกับเชือกปอ และกลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบแดงนั้นจะให้สีที่แดงจัด โดยทั่วไปใช้แต่งสีในอาหาร ไวน์ ในน้ำหวาน หรือใช้ย้อมสีตอกไม้ไผ่สำหรับสานกระติบข้าว หรือตะกร้า โดยชาวบ้านจะเอากลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบแดงมาต้มก่อนอาไม้ตอกที่จักแล้วไปแช่ เสร็จแล้วนำมาทำเครื่องจักสานตามที่ต้องการ
กระเจี๊ยบแดงเป็นสมุนไพรที่นามาทำเป็นเครื่องดื่มแล้วรสชาติดี และยังช่วยบำรุงร่างกายอีกด้วย จากการศึกษาวิจัยพบว่า ในกระเจี๊ยบแดงมีธาตุเหล็กและเบต้าแคโรทีนสูงมาก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก และคนที่เป็นโรคขาดวิตามินเอ ส่วนสารสกัดจากกลีบดอกมีสรรพคุณช่วยระบาย
สารสีแดงในกลีบเลี้ยงนั้น มีชื่อว่า แอนโธไซยานิน มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกำจัดสารพิษ ซึ่งการดื่มน้ำหรือชากระเจี๊บยแดงนั้จะช่วยในการป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยชะลอความแก่ นอกจากนี้การศึกษาสมัยใหม่ยังพบว่า กระเจี๊ยบแดงช่วยป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากสารพิษอีกด้วย
มีรายงานว่ากระเจี๊ยบแดงช่วยไม่ให้เซลล์สมองถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ และสารแอนโทไซยานินจากกระเจี๊ยบแดงสามารถไปถึงสมองได้ภายในไม่กี่นาทีหลังจากที่ตกถึงท้อง ดังนั้น การดื่มน้ำหรือชากระเจี๊ยบจึงช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมได้อีกทางหนึ่ง
สรรพคุณโดดเด่นที่ทั่วโลกเป็นที่รู้กันก็คือ การใช้กระเจี๊ยบแดงเป็นยาลดความดันโลหิต และยาขับปัสสาวะ และยังเชื่อว่ากระเจี๊ยบแดงนั้นมีสรรพคุณในการบำรุงไตและหัวใจอีกด้วย จากการทดลองพบว่า กระเจี๊ยบแดงสามารถลดความดันโลหิต ขับปัสสาวะ ขับยูริค รวมทั้งลดการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะภายหลังการผ่าตัดในไตได้อีกด้วย
ตำรับยารักษาทางเดินปัสสาวะอักเสบ แก้นิ่ว
นำกลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบแดงมาบดเป็นผง 1 ช้อนชา ชงในน้ำเดือดใหม่ๆ 1 แก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้ง
มีรายงานว่าการดื่มชากระเจี๊ยบวันละ 2-3 ครั้ง สามารถลดความดันโลหิตขณะที่หัวใจคลายตัว ลงตั้งแต่ร้อยละ 7.2 ถึง 13 ดังนั้นชากระเจี๊ยบจึงเหมาะกับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง เนื่องจากสารแอนโธไซยานินในกระเจี๊ยบนั้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด
สารแอนโธไซยานินที่พบในกระเจี๊ยบแดงนั้นมีสรรพคุณต่อต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยออกฤทธิ์เสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงช่วยป้งกันการติดเชื้อจากไข้หวัดใหญ่ และมีผลทำให้เชื้อไข้หวัดใหญ่เข้าสู่เซลล์ร่างกายของคนได้น้อยลง
ตำรับอาหาร แยมกระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบแผ่น
ส่วนผสม
กลีบดอกกระเจี๊ยบสด ½ กิโลกรัม, น้ำตาลทราย ½ กิโลกรัม และเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำดอกกระเจี๊ยบสดไปต้มให้เปื่อย (น้ำที่ได้จากการต้มสมารถนำมาทำน้ำกระเจี๊ยบได้) เทน้ำออก ใช้ไฟอ่อนๆกวนไปเรื่อยๆ ขณะที่กวนใชทัพพีขยี้ดอกกระเจี๊ยบให้เละ จากนั้นเติมน้ำตาลทรายและเกลือ กวนต่อจนน้ำระเหยเป็นครีม เสร็จแล้วยกลง ทิ้งไว้ให้เย็นพร้อมรับประทาน หากอยากทานกระเจี๊ยบกวนแบบแผ่นให้กวนต่อเรื่อยๆจนเนื้อกระเจี๊ยบแห้ง ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำไปเทใส่ถาดเกลี่ยให้บาง ตากแดดประมาณ 1-2 วัน และแกะออกจากถาด ก็จะได้กระเจี๊ยบแผ่นแสนอร่อย
(699)
