ย้อน 10 หนังรางวัลออสการ์ยอดเยี่ยมชีวิตนี้ควรดูสักครั้ง
หนังยอดเยี่ยมปี 2008 Slumdog Millionaire (81th)
หนังเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหนุ่มชาวมุมไบที่โด่งดังจากการเข้าร่วมรายการ Who Wants to Be a Millionaire? โดยก่อนหน้านี้แทบไม่เคยมีหนังต่างประเทศเรื่องไหนเข้าใกล้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมากเท่า ‘Slumdog Millionaire’ โดยหนึ่งในสามของบทสนทนาในเรื่องเกิดขึ้นในภาษาฮินดี ซึ่งความแรงของหนังเรื่องนี้ไม่ได้แค่เฉพาะการชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีเท่านั้น แต่ยังกวาดรางวัลไปทั้งหมดถึง 10 รางวัล มากที่สุดในปีนั้นเลยทีเดียว
หนังยอดเยี่ยมปี 2009 The Hurt Locker (82th)
The Hurt Locker เอาเบียดแซงหนังใหญ่อย่าง Avatar ไปคว้ารางวัลออสการ์มาครองได้สำเร็จโดยเป็นหนังออสการ์ที่ทำเงินได้น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยโกยเงินไปได้แค่ 49 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกันที่หนังเรื่องนี้มีแฟนๆปรบมือให้อย่างมาก โดยนอกจากชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแล้วหนังเรื่องนี้ยังพาผู้กำกับ Kathryn Bigelow ชนะรางวัลผู้กำกับยอดเยี่มอีกด้วยนับเป็นหนังยอดเยี่ยมเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่กำกับโดยผู้กำกับหญิงอีกด้วย
หนังยอดเยี่ยมปี 2010 The King’s Speech (83th)
Colin Firth ถ่ายทอดเรื่องราวของกษัตริย์จอร์ชที่ 6 ผู้มีปัญหาจากการติดอ่างในการดิ้นรนจากอาการประจำตัวนี้ The King’s Speech คว้ารางวัลใหญ่มาครองเบียดแซงหนังท็อปฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Black Swan และ The Social Network
หนังยอดเยี่ยมปี 2011 The Artist (84th)
ในบรรดาหนังที่ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ The Artist เป็นอีกเรื่องที่โดดเด่นด้วยการเป็นภายนตร์ขาว-ดำที่ไม่ได้มีบทสนทนาเลยตลอดทั้งเรื่อง ทั้งไม่ได้มีดาราชั้นนำชื่อก้องร่วมแสดงอย่าง The Help หรือ Moneyball ทั้งยังเป็นภาพยนตร์เงียบเรื่องที่ 2 ได้รางวัลใหญ่จากเวทีออสการ์นี้ นับจากเรื่องแรกคือ ‘Wings’
หนังยอดเยี่ยมปี 2012 Argo (85th)
ภาพยนตร์ออสการ์เรื่องนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับวิกฤตของทหารอเมริกาในอิหร่านซึ่งกำกับและโปรดิวซ์โดยดาราชื่อคุ้นหู ‘Ben Affleck’ เอาชนะ Les Miserables และ Zero Dark Thirty และยังเป็นหนังเรื่องแรกที่ได้รางวัลใหญ่ผู้กำกับไม่ได้เข้าชิงในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม
หนังยอดเยี่ยมปี 2013 12 Years A Slave (86th)
12 Years A Slave กำกับโดย Steve McQueen โปรดิวซ์โดย Brad Pitt และนำแสดงโดย Chiwetel Ejiofor และยังแจ้งเกิดให้ Lupita Nyong’o เป็นดาราสาวที่ดังเป็นพลุแตกอีกด้วย เรื่องราวจากเรื่องจริงของ Solomon Northup เกี่ยวกับชายที่ออกไปท่องเที่ยวแต่ถูกลักพาตัวแล้วถูกขายไปเป็นทาส 12 Years A Slave เอาชนะสายโหดอย่าง American Hustle และ Gravity
หนังยอดเยี่ยมปี 2014 Birdman
Birdman หนังดราม่า-คอมเมดี้ นำแสดงโดย Michael Keaton และ Emma Stone ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับดาราตกต่ำที่อยากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลับมาแสดงละครเวทีอีกครั้ง หนังเรื่องนี้กำกับโดย Alejandro Gonzalez Inarritu ผู้ชนะ 4 รางวัลออสการ์ทั้ง ภาพยนตร์ออสการ์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม แซงThe Imitation Game และ The Theory of Everything
หนังยอดเยี่ยมปี 2015 Spotlight
เล่าเรื่องราวของหน่วยสืบสวนสอบสวน “Spotlight” แห่งหนังสือพิมพ์ Boston Globe’s ผู้เปิดโปงคดีทารุณกรรมทางเพศของบาทหลวงคาทอลิคในถิ่นบอสตัน เรื่องราวสุดดราม่านี้เอาชนะหนังใหญ่แห่งปีอย่างThe Big Short มาได้ทั้งยังได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย
หนังยอดเยี่ยมปี 2016 Moonlight
Moonlight เอาชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์โดยหักทุกปากกาเซียน โดยเป็นหนังเรื่องแรกที่มีนักแสดงนำทั้งหมดและทีมงานหลักเป็นคนผิวสีทั้งยังเป็นภาพยนตร์ของคนรักร่วมเพศที่คว้ารางวัลใหญ่ รางวัลออสการ์ประจำปี 2016 ยังสร้างเสียงฮือฮาจากการที่ผู้ประกาศรางวัลประกาศผิดเป็นหนังเรื่อง La La Land ก่อนที่จะแก้เป็น Moonlight ถือเป็นอีกวินาทีประวัติศาสตร์ของออสการ์เลยก็ว่าได้
หนังยอดเยี่ยมปี 2017 The shape of water
เรื่องราวความรักโรแมนติกระหว่างหญิงใบ้คนหนึ่งกับมนุษย์ปลามีจุดเด่นที่ภาพที่ตื่นตาตื่นใจ การส่งอารมณ์ของตัวละคร ทำให้ผู้กำกับ Guillermo del Toro ได้รับเสียงปรบมืออย่างหนาแน่นในเรื่องนี้
หนังยอดเยี่ยมปี 2018 Green Book
ภาพยนตร์อารมณ์ดี Road Movie เรื่องนี้สร้างขึ้นจากเรื่องจริงของคู่หูนักดนตรีผิวขาวกับคู่หูผิวสีในปี 1962 Green Book ซึ่งดูเหมือนบรรดานักวิจารณ์จะไม่ค่อยชอบมากนัก แต่กลับได้รับความรักจากคนดูมากมาย
พบกับหนังและโปรโมชั่นมากมายได้ที่ Shopee 4.4
(43010)