ยุคสมัยที่เด็กผู้ชายทุกคนต้องสวมกระโปรง!?

ในไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมาทางด้านโลกตะวันตก คุณไม่สามารถแยกเด็ก ๆ จากการแต่งตัวได้เลยโดยเฉพาะลูก ๆ ของเหล่าขุนนางว่าเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย เพราะเด็กทุกคนจะแต่งตัวเหมือนกันด้วยเสื้อผ้าผู้หญิงพร้อมกับสวมรองเท้าและทำทรงผมยาวและผมหางม้า เนื่องจากการสวมกางเกงหรือกางเกงขายาวจะเกิดขึ้นเมื่อเด็กผู้ชายมีอายุสี่ปี หรือบางคนอาจจะยังคงสวมชุดกระโปรงจนจนกระทั่งอายุแปดปี และเมื่อถึงเวลานั้นเด็ก ๆ ก็อยากสวมกางเกงขายาวตัวแรกอย่างกระตือรือร้น ดังนั้นการสวมกางเกงจึงกลายเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมากในชีวิตของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง และเหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ได้รับการเฉลิมฉลองด้วยพิธีที่รู้จักกันในชื่อ Breeching นั่นเอง

เหล่าพระราชโอรสและพระราชธิดาของพระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ

ประเพณีการแต่งตัวเช่นนี้เริ่มต้นขึ้นในสหราชอาณาจักรช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ซึ่งเด็กเล็ก ๆ จะถูกฝึกอบรม และปลูกฝังถึงการแต่งตัวของพวกเขา เพราะการสวมกระโปรงจะทำให้แม่ และพี่เลี้ยงเปลี่ยนผ้าอ้อมได้ง่ายขึ้นซึ่งในตอนนั้น ซิปรูดยังไม่ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาทำให้การถอดกางเกงมีความซับซ้อนมากกว่ากระโปรงหรือชุดเดรส ทั้งเด็กในช่วงวัยนี้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้การใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ประหยัดมากกว่าเพราะในยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมเสื้อผ้ามีราคาแพงกว่าตอนนี้มาก แม้พิธี breeching มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานะทางสังคมอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตามประชาชนทุกชนชั้นจะได้รับการเรียนรู้และปฏิบัติตามประเพณีนี้ในทุกชั้นเรียน

เจ้าชายอูลริกแห่งเดนมาร์ก

เมื่ออายุสี่ถึงหกขวบเด็กผู้ชายส่วนมากจะไม่สวมใส่กระโปรงแล้วหันมาเริ่มใส่กางเกง ซึ่งเหตุการณ์นี้จะมีการเฉลิมฉลองส่วนตัวสืบต่อกันมาเรื่อย ๆ จนเป็นประเพณีที่จัดกันภายในครอบครัวเล็ก ๆ มีเพียงคนในครอบครัว และเพื่อนที่ได้รับเชิญ มีการให้ของขวัญแก่เด็กคนนั้นเพื่อเป็นการเริ่มต้นชีวิตของวัยที่โตขึ้น โดยส่วนใหญ่พวกเขาจะให้ของเล่น และดาบซึ่งเป็นดาบจริง เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตขึ้นในฐานะผู้ใหญ่ ดุจดั่งความรับผิดชอบที่ต้องหนักแน่น แข็งแรง และต้องคอยถือไว้ให้มั่น สำหรับเด็กผู้ชายแล้วพิธีนี้สำคัญในชีวิตของพวกเขามากเพราะบ่งบอกถึงขั้นแรกในการก้าวไปเป็นผู้ใหญ่มีวิถีชีวิตซึ่งต่างกันไปแต่ละชนชั้น สำหรับชนชั้นสูงนั้นหมายถึงการไปโรงเรียนประจำ ในขณะที่ชนชั้นแรงงานอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นทาส

จนกระทั่งในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 สังคมเริ่มยอมรับช่วงเวลาสำคัญของชีวิตที่เรียกว่าวัยเด็ก และเกิดปรัชญาใหม่ ๆ ในการอบรมเลี้ยงดู มีการปรับเปลี่ยนให้เสื้อผ้ามีความเหมาะสมในแต่ละเพศ และอายุซึ่งเป็นวัยหัดเดิน เด็กชายชาวอังกฤษและอเมริกันเริ่มสวมกางเกงขาสั้น โดยที่ชุดไม่ได้ตามแนวแฟชั่นมากนัก แต่เน้นถึงความสะดวกในการเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่า กระทั่งกลายเป็นที่นิยมในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ในที่สุดพิธีนี้ก็ได้เลือนลางไปพร้อมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้นทำให้เกิดตัวเลือกในการแต่งกายขึ้นมากมาย อย่าง กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบ

พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และพระอนุชา

 

(5885)