แน่นอนการอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องแย่ หากคุณเป็นคนที่รักในความสงบ เงียบ ไม่วุ่นวาย หรือก็คือชอบที่จะอยู่คนเดียวหาอะไรทำตามที่คุณชอบนั่นแหละ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะมองว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมนะทำไมต้องอยู่คนเดียวล่ะ? แต่จะมาย้ำว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมก็จริง แต่ มนุษย์ก็มีมันสมองขั้นสุดยอดที่ฉลาดพอที่จะคิดหาเหตุผลและวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการมีลักษณะนิสัยส่วนตัวก็เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์แปลกไปจากสัตว์ชนิดอื่น เพราะ มนุษย์ทุกคนจะมีลักษณะนิสัยที่ไม่เหมือกัน 100% ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะมีมนุษย์ที่รักในความสันโดษและชอบเป็นอย่างมากที่ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ดังนั้นวันนี้ Real Metro จะพาทุกท่านไปเรียนรู้กับ 10 ประโยชน์ของการอยู่คนเดียว 🙂
10 ประโยชน์ของการอยู่คนเดียว 🙂
1. คุณเหมือนได้ชาร์จแบตจนเต็มอีกครั้ง
การอยู่กับคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนหมู่มาก คุณจะเสียพลังงานเยอะ ต้องทำให้คนอื่นมีความสุข ทำให้คนอื่นๆ พอใจ รักษาภาพลักษณ์ตัวคุณเอง วางตัว และอีกหลายๆ อย่างที่คุณต้องทำเมื่ออยู่กับคนอื่นๆ และสิ่งนี้ต้องการพลังงานอย่างสูง เพราะฉะนั้น การได้อยู่คนเดียวซักพัก คุณจะเหมือนได้หยุดนิ่ง และเติมพลังงานเข้าสู่ร่างกายสักพักจริงๆ
2. คุณได้มีเวลามองย้อนดูชีวิตคุณเอง
ชีวิตเราบางทีก็เดินไปเร็ว เพราะโลกมันหมุนเร็ว สังคมมันหมุนเร็ว ทุกอย่างแข่งขันกับเวลา ทำให้บางครั้งเราไม่มีเวลาหยุดและมองสะท้อนชีวิตเราเอง วิเคราะห์สังเคราะห์ความเป็นไปของชีวิตเราเอง เพราะมัวแต่สนใจสิ่งรอบข้างและคนอื่นๆ มากเกินไป เพราะฉะนั้น การอยู่กับตัวเองคือเวลาที่เหมาะที่สุดที่คุณจะได้คิดถึงตัวเอง มองตัวเองได้ดีที่สุด
3. คุณได้สนใจอารมณ์ความรู้สึกตัวเองมากขึ้น
หลายๆ ครั้งเราสนใจแต่ความรู้สึกของคนอื่นๆ แคร์ความรู้สึกและอารมณ์คนอื่นๆ จนลืมไปว่าเรามีอีกคนที่เราควรแคร์ อีกความรู้สึกที่เราควรใส่ใจ นั่นก็คือตัวเราเอง และหากคุรไม่ได้อยู่กับตัวเองเลย คุณจะหยุดเพื่อแคร์ความรู้สึกของคุณได้อย่างเต็มที่และควรจะเป็นได้อย่างไร
4. คุณจะเริ่มทำในสิ่งที่คุณทำแล้วคุณเองมีความสุข
เวลาคุณอยู่กับคนอื่นๆ คุณจะอยู่ในจุดที่ว่า ประนีประนอมทำในสิ่งที่ทุกคนโอเค ทุกคนไปกันได้ อาจจะไม่มีความสุขเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอม เพราะบางทีสิ่งที่คุณชอบมากที่สุด คือคนละสิ่งกับทั้งกลุ่ม หรือคนรอบข้างคุณต้องการ เพราะฉะนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้อยู่คนเดียว นั่นคือ เวลาแห่งความสุขที่คุณจะได้ทำตามใจตนเอง
5. คุณจะทำหลายๆ อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
เวลาอยู่กับเพื่อน กับแฟน เคยเป็นหรือไม่ อ่านหนังสือก็ไม่ถึงไหน งานไม่เดิน มันแต่เล่น มัวแต่คุย สวีทกับแฟน และอีกหลายๆ อย่างตามมา ดังนั้นการได้ใช้เวลาอยู่คนเดียวบ้าง นั่นคือเวลาที่งานของคุณจะเดินมากที่สุด ลองสิ คุณจะมีประสิทธิภาพในการทำงานขึ้นเยอะสุดๆ เลยทีเดียว
6. คุณจะรู้สึกว่าเวลาอยู่กับคนรักจะมีความสุขมากขึ้น
เพราะอะไร? เพราะหากคุณได้อยู่คนเดียวเป็นปกติ และมีความสุขกับมัน พอช่วงไหนที่ใช้เวลาอยู่กับแฟนมันก็จะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอีกแบบ สุขเป็นพิเศษนั่นเอง นั่นอาจเป็นเพราะ ตอนที่อยู่คนเดียว คุณได้มีโอกาสเข้าใจตัวเองมากขึ้น มองเห็นตัวเองมากขึ้น และคุณรู้ว่าความรัก ความสัมพันธ์ในสายตาคุณคืออะไร และคุณจะมีความสุขมากขึ้นนั่นเอง
7. คุณรู้สึกพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น
คุณจะมั่นใจมากขึ้นหลายเท่าว่าคุณสามารถอยู่ได้บนลำแข้งของตนเอง พึ่งพาตัวเองได้ ไม่กังวล ไม่เสียใจ ไม่ทุกข์ หากเพื่อนไม่ว่างไปทานข้าวกับคุณ แฟนไปต่างประเทศ คุณก็สามารถใช้ชีวิตคนเดียวได้อย่างมีความสุขนั่นเอง
8. คุณจะได้พักบ้างจากการพยายามทำให้คนอื่นมีความสุข
ชีวิตคนเราต้องเจอคนมากมาย ตั้งแต่คนในครอบครัว เพื่อน คนรัก เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย และอีกสาระพัดที่เราเจอรายวัน แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนกันในทุกความสัมพันธ์ก็คือ การที่เราต้องพยายามทำให้คนอื่นๆ รู้สึกดีกับเรา ซึ่งแน่นอนก็ดีกว่าทำให้เขาเกลียดเรา ต้องทำให้เขามีความสุข และพึงพอใจ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นบางทีก็ทำให้คุณเหนื่อยนะ การอยู่คนเดียวทำให้คุณได้พักจากสิ่งเหล่านั้นบ้าง เพราะสิ่งที่คุณต้องแคร์คือคุณคนเดียวเท่านั้น
9. คุณไม่ต้องขอโทษอะไรเลย หากทำอะไรผิด
หากคุณอยู่คนเดียว ไม่ว่าคุณจะทำอะไร คุณจะไม่ต้องขอโทษหากคุณทำสิ่งใดผิด คุณจะไม่ต้องระวังคำพูดที่จะกลัวให้ใครเสียใจและต้องขอโทษขอโพย และอยากจะบอกว่า มันลดแรงกดดันที่คูณจะมีในชีวิตไปได้มากเลยล่ะ
10. คุณไม่ต้องรอคอยคำว่า “OK” จากใครอีก
หลายๆ ครั้งเวลาจะทำอะไร จะซื้ออะไร เรารู้สึกว่าเราต้องบอกเพื่อน บอกพ่อแม่ บอกพี่น้อง และต้องการฟังคำว่า OK จากพวกเขา เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่คุณคิด คุณจะทำ คือสิ่งที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่ามันมีหลายครั้งที่ชีวิตต้องการคำแนะนำจากคนที่เคยผ่านมันมาก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายความเช่นกันว่าทุกครั้ง ต้องเป็นแบบนั้น และการที่คุณได้อยู่คนเดียว ได้ตัดสินใจเองคนเดียว ก็เป็นความสุขอีกอย่างที่น่าลองเหมือนกันนะ
Photo by Greg Rakozy & rawpixel.com on Unsplash.
story by Nirut Sirijanya.
(25962)