นักวิทยาศาสตร์ทราบมานานแล้วว่าอุณหภูมิของอากาศที่สูงขึ้นนั้น ส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์เริ่มละลาย แต่การศึกษาใหม่พบว่ามีภัยคุกคามอื่นที่เริ่มโจมตีน้ำแข็งจากด้านล่าง น้ำทะเลอุ่นๆ เคลื่อนตัวใต้ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ทำให้พวกมันละลายเร็วยิ่งขึ้น
การค้นพบนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Nature Geoscience โดยนักวิจัยที่ศึกษาหนึ่งใน “ice tongues” ของธารน้ำแข็ง Nioghalvfjerdsfjorden ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามธารน้ำแข็ง 79° เหนือ ในกรีนแลนด์ตะวันออกเฉียงเหนือ
ice tongues คือแถบน้ำแข็งที่ลอยอยู่บนน้ำโดยไม่แตกออกจากน้ำแข็งบนบก อันที่ใหญ่ที่สุดที่นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ศึกษา มีความยาวเกือบ 50 ไมล์
จากการสำรวจพบกระแสน้ำด้านล่าง กว้างกว่าหนึ่งไมล์ซึ่งน้ำอุ่นจากมหาสมุทรแอตแลนติกสามารถไหลไปสู่ธารน้ำแข็งโดยตรง ทำให้เกิดความร้อนจำนวนมากสัมผัสกับน้ำแข็งและเร่งการละลายของธารน้ำแข็ง
นักวิทยาศาสตร์ยังพบกระแสน้ำที่คล้ายกัน ซึ่งไหลอยู่ใกล้กับธารน้ำแข็งของกรีนแลนด์อีกแห่งหนึ่ง ซึ่ง ice tongues ขนาดใหญ่เพิ่งแตกออกและไหลสู่มหาสมุทร
การสูญเสียมวลจากแผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์ในปัจจุบันเป็นตัวขับเคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดของระดับน้ำทะเลทั่วโลก และจากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในเดือนธันวาคมในวารสาร Nature แผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์กำลังละลายเร็วกว่าที่เคยเป็นในปี 1992 ถึง 7 เท่า ซึ่งแผ่นน้ำแข็งนี้มีน้ำพอที่จะยกระดับน้ำทะเลทั่วโลกให้สูงขึ้นกว่า 24 ฟุต
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า อุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์ของอาร์กติกเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ธารน้ำแข็งของกรีนแลนด์สูญเสียพื้นที่น้ำแข็ง 11,000 ตันลงสู่มหาสมุทรในเวลาเพียงหนึ่งวัน หรือเทียบเท่ากับสระว่ายน้ำโอลิมปิกประมาณ 4.4 ล้านสระ
ในเดือนกรกฎาคมเพียงเดือนเดียว ธารน้ำแข็งของกรีนแลนด์ก็สูญเสียน้ำแข็งไป 197 พันล้านตัน หรือเทียบเท่ากับสระว่ายน้ำโอลิมปิกประมาณ 80 ล้านสระ ตามรายงานของ Ruth Mottram นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศของสถาบันอุตุนิยมวิทยาเดนมาร์ก
อุณหภูมิของน้ำก็ทำลายสถิติในปี 2019 จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Advance Advances in Atmospheric Sciences กล่าวว่าอุณหภูมิของมหาสมุทรปีที่แล้วอยู่ที่ 0.075 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่ปี 1981-2010
ผู้มีความรู้ด้านการศึกษากล่าวว่า ความร้อนที่มหาสมุทรดูดซับในวันนี้เทียบเท่ากับการทิ้งระเบิดฮิโรชิมา 5 ลูกลงในทุก วินาทีในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา
ที่มา cnn
(5986)