วิดีโอที่แสดงให้เห็นน้ำปริมาณมหาศาล ที่ไหลลงสู่ใต้แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์นั้นอาจเปลี่ยนแปลงง่ายกว่าที่นักวิทยาศาสตร์เคยคาดคิด เมื่อมีคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นว่า ทะเลสาบบนพื้นผิวของกรีนแลนด์ไหลหายไปใต้แผ่นน้ำแข็งจนหมดภายในระยะเวลาหลักชั่วโมงเท่านั้น

วิดีโอไทม์แลปส์นี้แสดงให้เห็นการหายไปของ Store Glacier ในกรีนแลนด์ตะวันตก เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2018 โดยน้ำในทะเลสาบได้ลดระดับลงถึง 2 ใน 3 ของปริมาณน้ำ ภายในระยะเวลาเพียง 5 ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับสระว่ายน้ำโอลิมปิกขนาด 2,000 สระ แม้ว่าน้ำในทะเลสาบจะไม่ได้ไหลลงในรอยแตกจนหมด แต่ก็สามารถมองเห็นรอยแตกระหว่างแผ่นน้ำแข็งที่เป็นร่องลึกถึง 1 กิโลเมตรได้อย่างชัดเจน

Poul Christoffersen นักวิทยาธารน้ำแข็งจากสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ กล่าวว่า ในทุกๆ ปีจะมีน้ำปริมาณที่ไหลลงสู่ด้านล่างของแผ่นน้ำแข็ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์เคลื่อนที่ลงสู่ทะเล และเร่งกระบวนการที่ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นนั่นเอง

จากการสำรวจโดยดาวเทียมตั้งแต่ในช่วงปี  1970s พบว่าจำนวนทะเลสาบที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็งเพิ่มสูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทะเลสาบจึงมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เดิมนักวิจัยคาดว่าการไหลของน้ำในทะเลสาบนั้น ถูกกักเก็บไว้ระหว่างชั้นน้ำแข็ง จึงไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของแผ่นน้ำแข็งมากนัก แต่ในเดือนพฤษภาคมปี 2018 นักวิจัยได้ตีพิมพ์บทความในวารสาร Nature Communications ที่เปิดเผยว่าทะเลสาบมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นอย่างเชื่อมโยงกัน เมื่อการไหลของน้ำในทะเลสาบหนึ่งสามารถทำให้พื้นผิวน้ำแข็งแตกเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ทะเลสาบอื่น ๆ ไหลลงในรอยแยกด้วย ซึ่งถือเป็นกระบวนการแบบลูกโซ่ที่ส่งผลกระทบได้ค่อนข้างมาก

ภายหลังจากได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทะเลสาบแห่งนี้แล้ว ก็ยิ่งทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนความคิด เพราะการไหลของน้ำมากกว่า 4.77 พันล้านลิตรไปยังฐานน้ำแข็งนั้น สามารถทำความเสียหายต่อแผ่นน้ำแข็งได้มาก และข้อมูลที่ได้จะทำให้พวกเขาสามารถศึกษาต่อไปได้ว่าน้ำเหล่านี้สร้างผลกระทบอย่างไรบ้าง และมีบทบาทสำคัญในการจำลองแบบแผ่นน้ำแข็งให้มีความละเอียดและสมจริงมากขึ้นในอนาคต”

ที่มา University of Cambridge, Live science 

(13692)