9 เทคนิคการเที่ยวด้วยตัวเอง

นี่คือเคล็ดลับสำหรับใครสักคนที่ต้องการวางแผนที่จะไปเที่ยวในวันหยุดคนเดียว เริ่มตั้งแต่สำหรับมือใหม่ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญ พบกับ 9 เทคนิคการเที่ยวด้วยตัวเอง ที่อาจทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของคุณง่ายยิ่งขึ้น

1. สอบถามถึงห้องพักเดี่ยว
โรงแรมระดับไฮเอนด์หลายแห่งในยุโรปจะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว ส่วนมากมักจะเป็นห้องเดี่ยว มีขนาดเล็กกว่าห้องมาตรฐาน และมีราคาที่ถูกกว่า แต่โรงแรมมักไม่ค่อยใส่รายการห้องพักเดี่ยวเข้าไปในเว็บไซต์ ซึ่งคุณต้องค้นหาห้องว่างและเช็คราคาโดยแจ้งรายละเอียดวันที่เข้าพัก

2. บันทึกการเดินทางของคุณ
LiveTrekker เป็นแอปพลิเคชันฟรีสำหรับการเดินทางคนเดียว ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน LiveTrekker จะติดตามคุณพร้อมทั้งบันทึกเส้นทางที่คุณไป และวาดเส้นสีแดงลากตามถนน ผ่านสวนสาธารณะหรือพิพิธภัณฑ์ที่คุณไปเยี่ยมชม สร้างรายละเอียดแผนที่การเดินทางของคุณที่สามารถซูมได้ อีกทั้งยังแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวผ่านมุมมองจากดาวเทียม และที่สำคัญคือคุณไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi เพียงแค่กดปุ่มเริ่มต้นก่อนที่คุณจะเดินทางจากนั้นแอปฯจะดูแลส่วนที่เหลือเอง คุณสามารถหยุดพักตามที่ต่าง ๆ ขณะที่คุณเดินทางได้ และเมื่อสิ้นสุดวันคุณก็สามารถดูแผนที่ที่สวยงามจากสถานที่ที่คุณเคยไปได้

3. ท่องเที่ยวไปกับทัวร์
บริษัทนำเที่ยวแบบเสียง Detour ได้เสนอทัวร์ราคาไม่แพงสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในลอนดอน ปารีส โรม นิวยอร์ค นิวออร์ลีน พอร์ทแลนด์ และสวันนา ยกตัวอย่างเช่นในปารีส คุณสามารถซื้อทัวร์ Saint-Germain-des-Prés หรือที่เรียกว่า The Golden Age of African-American Writersซึ่งเป็นเรื่องราวการติดตามการเดินทางของ Richard Wright และ James Baldwin หรือหากคุณไม่ต้องการการนำเที่ยวแบบเสียง คุณสามารถเลือกไกด์นำเที่ยวส่วนตัวที่จะเดินนำทางคุณไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้เช่น Country Walkers โดยการบริการรวมไปถึงแผนที่ กำหนดการการเดินทาง การเคลื่อนย้ายสัมภาระ อาหารเช้า และมื้ออื่น ๆ

4. ฝึกภาษาท้องถิ่น
แอปฯ Duolingo ได้เปลี่ยนการเรียนภาษาที่น่าเบื่อเป็นเกม มีทั้งเกมตอบคำถามแบบมีหลายตัวเลือก เกมจับคู่คำ เกมแปลภาษาจากบทความและการพูด หากคุณตอบถูกคุฯจะได้เลื่อนขั้นไปยังด่านต่อไป ซึ่งเป็นการเรียนภาษาที่คุณสามารถเรียนได้ที่บ้าน ระหว่างต่อคิวที่ร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่บนไฟล์ทบินของคุณ ยิ่งคุณมีความรู้มากเท่าไหร่คุณก็จะสามารถเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้มากขึ้น

5. ดาวน์โหลด Google Translate
หากคุณมีแอปฯ Google Translate คุณก็จะสามารถสื่อสารกับคนขับแท็กซี่ชาวญี่ปุ่น สั่งอาหารที่ภัตาคารอิตลาเลี่ยนได้ต่อให้คุณจะพูดภาษาเหล่านั้นไม่ได้ก็ตาม ซึ่งแอปฯนี้สามารถใช้งานได้หลากหลายวิธี เช่น สัญลักษณ์กล้อง เพียงแค่แตะและถือโทรศัพท์ไว้เหนือเมนูอาหารหรือถ่ายภาพของข้อความที่คุณกำลังดูอยู่ จากนั้นแอปฯจะแปลให้คุณอัตโนมัติ นอกจากนี้คุณยังสามารถแปลคำที่คุณพูด พิมพ์ หรือวาดบนหน้าจอสมาร์ทโฟนด้วยนิ้วของคุณได้ด้วยเช่นกัน

6. พบปะนักท่องเที่ยวคนอื่นที่เดินทางคนเดียวเช่นกัน
Context Travel นำเสนอทัวร์เดินเที่ยวแบบส่วนตัว(สำหรับไม่เกินเจ็ดคน)ในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก นำโดยนักวิชาการที่มีระดับสูง การท่องเที่ยวผจญภัยในต่างประเทศเหมาะสำหรับนักเดินทางวัย 50 ปีกับกลุ่มท่องเที่ยวกลุ่มเล็ก ๆ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียวก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้คาดไว้ว่าในไม่ช้านักท่องเที่ยวกว่าครึ่งหนึ่งจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว ในปี 2016 บริษัท Intrepid Travel ได้เสนอทัวร์สำหรับเดินทางคนเดียว และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทำให้บริษัทเสนอทัวร์กว่าครึ่งหนึ่งสำหรับการเดินทางคนเดียวในสถานที่ต่าง ๆ เช่นบาหลีและโมร็อกโกในปี 2018

7. จองมื้ออาหารกับคนท้องถิ่น
แอปพลิชันแบบ peer-to-peer และเว็บไซต์เช่น EatWith, Withlocals และ Feastly ช่วยให้คุณสามารถจองอาหารกับคนท้องถิ่นได้ภายในไม่กี่นาที และบางครอบครัวก็เป็นเชฟมืออาชีพ บางครอบครัวก็ปรุงอาหารสำหรับสองหรือสามคน บางที่ก็มากพอสำหรับเกือบสิบคน ดังนั้นคุณอาจจะไม่ได้รับประทานอาหารแค่กับพ่อครัว แต่อาจจะเป็นคู่สมรสใครสักคน รวมไปถึงนักเดินทางคนเดียวคนอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งชาวบ้านในพื้นที่

8. ซึมซับบรรยากาศ
หากคุณเป็นคนติดโซเชียล แอปพลิเคชัน Freedom จะบล็อคเว็บไซต์และแอปฯต่าง ๆ ในสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อให้คุณสนใจและซึมซับบรรยากาศรอบ ๆ ตัวคุณ

9. ศึกษาวัฒนธรรมและกฎหมายประจำถิ่น
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม กฎหมาย อาชญากรรม สุขภาพข้อกำหนดต่าง ๆ เกี่ยวกับวีซ่า สถานที่ตั้งสถานทูตและการใช้ยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกไว้ที่ travel.state.gov เว็บไซต์นี้ยังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับนักเดินทางที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงเช่นผู้หญิง คนพิการ และนักท่องเที่ยว LGBT

(1919)