10 ผลงานศิลปะชิ้นเอกแห่งยุคเรอแนซ็องส์

สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือ ยุคเรอแนซ็องส์ เป็นช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมยุคใหม่ สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาเป็นการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมที่กินเวลาตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 14 ถึง 17 ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงทางวรรณกรรม วิทยาศาสตร์ ศิลปะ ศาสนาและการเมือง ช่วงเวลานี้มีงานศิลปะออกมาเป็นจำนวนมาก และวันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับ 10 ผลงานศิลปะชิ้นเอกแห่งยุคเรอแนซ็องส์กัน

#10 The Birth of Venus โดย Sandro Botticelli ปี 1486 :  ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่หอศิลป์อุฟฟิซิ, เมืองฟลอเร็นซ์ ประเทศอิตาลี ซานโดร บอตติเชลลีเขียนภาพ “กำเนิดวีนัส”  ที่เป็นภาพของวีนัสลอยมาเกยฝั่งอย่างผู้หญิงเต็มตัว

#9 The Assumption of the Virgin โดย  Titian ปี 1518 :  Titian ใช้เวลาสองปีในการเขียนภาพ The Assumption of the Virgin ซึ่งแบ่งเป็นสามตอนและใช้สีที่วิจิตร ซึ่งทำให้ทิเชียนกลายมาเป็นหนึ่งในช่างเขียนคนสำคัญที่สุดของกรุงโรม

#8 Sistine Madonna โดย Raphael ปี 1512 : ปัจจุบันภาพเขียน Sistine Madonna ตั้งแสดงอยู่ที่หอจิตรกรรมชั้นครูแห่งเดรสเดนที่เมืองเดรสเดนในประเทศเยอรมนี  ตัวแบบในภาพยืนบนปุยเมฆที่ล้อมเป็นกรอบด้วยม่านหนาหนักสองข้าง พระแม่มารีเองดูราวกับว่าลอยลงมาจากสวรรค์จากที่ว่างลวงตามายังที่ว่างจริงบริเวณหน้าภาพที่จะเห็นได้จากจุดโฟกัสที่พระหนุของพระองค์ นักบุญบาร์บาราปรายตามาทางผู้ศรัทธาที่เลยออกมาจากระเบียงด้านล่างของภาพ มงกุฎพระสันตะปาปาด้านล่างซ้ายของภาพเป็นสิ่งที่เชื่อมระหว่างที่ว่างลวงตาของภาพและที่ว่างจริงนอกภาพ (real และ pictorial space) 

#7 Primavera โดย Sandro Botticelli ปี 1482 : ปัจจุบันภาพเขียน Primavera ตั้งแสดงอยู่ที่หอศิลป์อุฟฟิซิในเมืองฟลอเร็นซ์ในประเทศอิตาลี  ภาพนี้ได้รับการตีความหมายกันไปต่างๆ ที่รวมทั้งความหมายทางการเมืองว่าความรักคือโรม, ไตรเทพี (three Graces) คือปิซา เนเปิลส์ และ เจนัว, เมอร์คิวรีคือมิลาน, ฟลอราคือฟลอเรนซ์, เมย์คือมานตัว, คลอริสและเซพไฟร์คือเวนิสและโบลซาโน  นอกจากความหมายต่างๆ ที่ว่าแล้วภาพนี้ก็ยังแสดงถึงธรรมชาติของความเป็นมนุษยชาติอย่างลึกซึ้ง เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของวัฒนธรรมร่วมสมัยและเป็นการแสดงออกของเนื้อหาของวรรณกรรมคลาสสิก

#6 The Last Judgement  โดย Michelangelo Buonarroti ปี 1541 : ภาพนี้ถูกเขียนไว้ภายในโบสถ์น้อยซิสทีน ในนครรัฐวาติกัน มีเกลันเจโลเขียนภาพ “The Last Judgement ” ระหว่างปี ค.ศ. 1534 ถึงปี 1541 สิบปีหลังจากการเขียนเพดานชาเปลซิสติน 

#5 The kiss of Judas โดย Giotto di Bondone ปี 1306 : ตั้งอยู่ภายใน โบสถ์น้อยสโกรเวญญี เมืองปาดัวในประเทศอิตาลี 

#4 The School of Athens โดย Raphael ปี 1511 :  เป็นภาพหนึ่งในชุดภาพที่ราฟาเอลได้รับสัญญาให้วาดสำหรับวังพระสันตะปาปาในกรุงวาติกัน ซึ่งเป็นงานจิตรกรรมสำหรับตกแต่งห้องชุดที่ปัจจุบันเรียกว่า “ห้องราฟาเอล” ภาพตั้งอยู่ภายใน “ห้องเซนยาทูรา” (Stanza della Segnatura) “สำนักแห่งเอเธนส์” ถือกันว่าเป็นงานชิ้นเอกของราฟาเอลและเป็นงานที่เป็นงานที่เพียบพร้อมไปด้วยลักษณะการเขียนภาพแบบเรอแนซ็องส์สูง 

#3 The Last Supper โดย Leonardo Da Vinci ปี 1498 : นี่คือรูปภาพที่โด่งดังมาก ภาพนี้ไม่ได้แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แต่กลับอยู่บนผนังในห้องกินข้าวที่อารามซานตามารีย์ เดลเล กราซี ในเมืองมิลานประเทศอิตาลี ภาพวาดได้แสดงให้เห็นถึงฉากของอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสถ์และเหล่าสาวกของพระองค์ทั้งสิบสองคน การได้รับชมสุดยอมผลงานชิ้นโบว์แดงในอารามเล็กๆ คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเมืองมิลานที่มอบให้กับคุณ

#2 The Creation of Adam โดย ปี 1512 : ถูกวาดไว้บนเพดานโบสถ์น้อยซิสทีนในนครรัฐวาติกัน ถูกวาดระหว่างค.ศ. 1508–1512 อิงเนื้อหาตามพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับหนังสือปฐมกาล เป็นตอนที่พระเจ้าพ่นลมหายใจแห่งชีวิตให้แก่อาดัม มนุษย์คนแรก ภาพที่หัตถ์ของพระเจ้าใกล้จะแตะกับมือของอาดัมได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของมนุษยชาติ และกลายเป็นภาพถูกลอกแบบตลอดจนถูกนำไปล้อเลียนนับครั้งไม่ถ้วน 

#1 The Mona Lisa  โดย ปี 1571 : ภาพวาดที่โด่งดังที่สุดในโลก วาดโดยลีโอนาโด ดา วินชี  เป็นจุดเยี่ยมชมหลักของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีคนเข้าเยี่ยมชมถึง 6 ล้านคนในทุกๆ ปี 

(42582)