หนึ่งพันหนึ่งราตรีหรือที่รู้จักกันในนามอาหรับราตรี เป็นงานรวบรวมนิยาย และนิทานพื้นบ้านในตะวันออกกลางและเอเชียใต้ที่ได้รวบรวมไว้เป็นภาษาอังกฤษระหว่างยุคทองของศาสนาอิสลาม วรรณกรรมดังกล่าวมีการรวบรวมเรื่องราวมานานหลายศตวรรษทั้งจากนิทานประวัติศาสตร์ไปจนถึงเรื่องราวความรักที่น่าเศร้าหรือแม้แต่ตลกขบขัน และเราได้รวบรวมเรื่องราวที่สนุกสนาน และโด่งดังที่สุดของวรรณกรรมหนึ่งพันหนึ่งราตรีมาให้คุณ 10 เรื่องแล้ว
- อาลีบาบาและกองโจร
นิทานชื่อดังที่ใครหลาย ๆ คนรู้จัก แถมยังติดเป็นภาพจำเรื่องนี้นำเข้ามาแปลในศตวรรษที่ 18 อาลีบาบาเป็นช่างตัดไม้ที่น่าสงสาร เขายากจนแต่ก็ขยันและทำงานหนัก วันหนึ่งอาลีบาบาโชคดีพบกับถ้ำวิเศษของกองโจรเข้า และถ้ำนั้นก็เป็นที่ซ่อนสมบัติมากมายของเหล่าโจรทั้ง 40 คน โดยประตูถ้ำจะเปิดออกก็ต่อเมื่อท่องคาถาว่า ‘เซซามี ประตูจงเปิดออก’ อาลีบาบาจึงได้โอกาสหยิบสมบัติมาจำนวนหนึ่งเพื่อไม่ให้กองโจรรู้ตัว แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานพี่ชายของเขา กาซิม ก็ดันรู้เรื่องนี้เข้า พี่ชายของอาลีบาบาจึงเข้าไปขโมยสมบัติของโจรบ้าง แต่ด้วยความละโมบมัวแต่เพลิดเพลินกับการขโมยสมบัติ กาซิมจึงพลาดท่าลืมคาถาในการเปิดประตูถ้ำ เมื่อถูกโจรพบเข้ากาซิมก็ถูกฆ่าตายโดยหั่นเป็นชิ้น ๆ แต่ก่อนตายเขายังเปิดเผยอีกว่าอาลีบาบาน้องชายของตนเป็นคนบอกกล่าวเรื่องถ้ำวิเศษนี้ พวกโจรจึงแค้นและออกตามล่าอาลีบาบา อย่างไรก็ตามพวกโจรก็ต้องยอมแพ้ไปเพราะมอร์เกียน่า ทาสสาวสุดฉลาดของอาลีบาบาคอยช่วยเหลือเอาไว้
- ชาวประมงและจอมอสูร
เรื่องราวของชาวประมงที่ยากจนคนหนึ่ง เขากำลังหาปลาในแม่น้ำแต่เขาก็ยังหาปลาไม่ได้เลย เขาจึงสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าให้ได้พบสิ่งดี ๆ และในการทอดแหครั้งต่อมานั่นเอง เขาก็พบกับไหทองแดงที่มีตราประทับของกษัตริย์โซโลมอนติดอยู่ด้วยความสงสัยเขาจึงเปิดฝานั้นออก ทันใดนั้นเองเขาก็พบกับเจ้าจินนี่จอมอสูรในไหใบนั้น ทว่าจินนี่ตนนั้นไม่ใช่จินนี่ดีที่ให้พรอย่างที่เราเข้าใจ แต่มันคือจอมอสูรที่หมายเอาชีวิตผู้ที่ปลดปล่อยมัน และด้วยไหวพริบชาวประมงจึงหาทางหลอกล่อจอมอสูร เขาถามว่าตัวมันใหญ่ขนาดนี้ลงไปในไหใบเล็ก ๆ นั้นได้อย่างไร จอมอสูรจึงแสดงอภินิหารให้ดู ในที่สุดมันก็ตกหลุมพราง ชาวประมงรีบปิดฝาไหในทันที และขู่ว่าเขาจะโยนไหใบนี้กลับลงไปในแม่น้ำ คราวนี้จอมอสูรจึงอ้อนวอนด้วยความกลัวว่าตนจะไม่ได้เป็นอิสระจากไหทองแดง หลังจากเป็นอิสระจอมอสูรเลยมอบพรให้กับชาวประมง ขอให้เขาตกปลาได้เยอะๆ และยังบอกให้ชาวประมงนำปลาไปขายให้กับสุลต่านอีกด้วย เวลาต่อมาสุลต่านสอบถามถึงสถานที่หาปลาของชาวประมงและพระองค์ก็มาสำรวจทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งพระองค์ก็ได้พบกับทายาทของตนเอง เจ้าชายที่ครึ่งร่างกลายเป็นหิน หลังจากเหตุการณ์นั้นสุลต่านและชาวประมงก็กลายเป็นมิตรสหายกัน
- เรื่องรัก ๆ แห่งเมืองบัสรา
นิทานเรื่องนี้โดดเด่นเรื่องภาษาที่สวยงามเห็นภาพ เป็นเรื่องราวความรักของชายหญิงคู่หนึ่งในเมืองบัสราผ่านการบอกเล่าของตัวละครบุคคลที่ 3 โดยเรื่องราวกล่าวถึงองค์กาหลิบ ฮารูน อัล-รอชีด นอนไม่หลับพระองค์เลยขอให้นักเขียนและกวีชื่อดัง มาเล่าเรื่องราวให้พระองค์ฟัง ทั้งคู่ได้เล่าว่าพวกเขาไปเยี่ยมชมที่เมืองบัสราเพื่อหาแรงบันดาลใจในการแต่งบทกวี และที่นั่นเขาพบกับสาวงามผู้ซึ่งกำลังสับสนในความรักของเธอที่มีต่อชายหนุ่มซึ่งอายุน้อยกว่า นักกวีเลยตัดสินใจช่วยเป็นสื่อกลางให้ความรักของทั้งคู่ประสบผลสำเร็จ แม้ว่ามันจะไปไม่สวยจนนักกวีหนุ่มถอดใจ แต่หนึ่งปีต่อมาเขาก็กลับมาที่เมืองนี้อีกครั้ง และในครั้งนี้ความปรารถนาของนักกวีก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อหญิงสาวและชายหนุ่มคู่นั้นตัดสินใจแต่งงานกัน โดยที่นักกวีไม่ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเลยสักนิด
- เจ้าชาย 3 พระองค์ และเจ้าหญิงนูร์รอนนิฮาร์
นิทานในรั้ววังที่เปลี่ยนมุมมองของความรักเรื่องนี้เกี่ยวกับเจ้าชายอาหรับ 3 พระองค์ ซึ่งทุกคนต่างต้องการแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องเจ้าหญิงนูร์รอนนิฮาร์ สุลต่านเสด็จพ่อของพวกเขาจึงสั่งให้เหล่าเจ้าชายแข่งกันหาสิ่งที่มีค่าที่สุดมามอบให้แก่เจ้าหญิง แต่ละคนต่างแข่งกันหาของวิเศษมาคนละอย่าง ได้แก่ พรหมวิเศษที่พาไปที่ไหนก็ได้, หลอดที่สามารถแสดงความปรารถนาของผู้ถือครอง และแอปเปิลแห่งการเยียวยา แต่ทันที่เจ้าชายนำของวิเศษมาวางไว้บนโต๊ะเพื่อตัดสินกัน ทั้ง 3 ก็ได้รับรู้ว่าเจ้าหญิงนูร์รอนนิฮาร์ล้มป่วย เหล่าทายาททั้ง 3 จึงตระหนักถึงความต้องการ และความรักของตน แทนที่จะต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงตัวเธอ เหล่าเจ้าชายตัดสินใจนำสิ่งของทั้งหมดมารวมกันเพื่อช่วยชีวิตหญิงสาวที่ตนเองรัก
- ซินแบดผจญภัย 7 น่านสมุทร
หนึ่งในเรื่องราวที่โด่งดังที่สุดของนิทาน 1001 ราตรี ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ และแอนิเมชันมาแล้ว กล่าวถึงกะลาสีเรือชื่อดังนาม ซินแบด เขาต้องเล่าเรื่องการผจญภัยของตนเองให้องค์กษัตริย์ฟังเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกประหาร การเดินทางข้ามผ่านทะเลทั้ง 7 เผชิญกับอันตรายทั้ง เวทมนตร์ สัตว์ประหลาด สมบัติ และสิ่งเหนือธรรมชาติ ทำให้ผู้ฟังตื่นเต้นไม่รู้จบ จนทำให้นิทานเรื่องนี้เป็น “นิทานซ้อนนิทาน” ที่โด่งดังและเป็นที่นิยมมากที่สุดของวรรณกรรมเรื่อง 1001 ราตรี หรืออาหรับราตรี
(12678)
