ทุกวันนี้พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเรากำลังทำร้ายสิ่งสำคัญในร่างกายอย่าง “ฟัน” อวัยวะที่มีหน้าที่เอาไว้ใช้บดเคี้ยวอาหารบ้างหรือเปล่า? การทานอาหารที่มีความเป็นกรด หรืออาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบสูงก็เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของอาการฟันผุ หรือการใช้ฟันกัดแทะของแข็ง ๆ การแปรงฟันไม่สะอาดก็เช่นเดียวกัน แล้วถ้ากังวลไม่อยากให้อาการฟันผุเกิดขึ้นกับเราล่ะ ต้องทำอย่างไร? มาลองปฏิบัติตาม 10 วิธีง่าย ๆ ที่ทันตแพทย์เผยว่าสามารถป้องกันฟันผุได้อย่างเห็นผลกันเถอะ
- กลั้วปากด้วยน้ำมัน
การกลั้วปากด้วยน้ำมัน (Oil pulling) เป็นวิธีที่นิยมในต่างประเทศ ช่วยขจัดแบคทีเรียที่สะสมอยู่ตามซอกฟันและช่องปาก โดยเลือกน้ำมันที่มีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรียอย่าง น้ำมันงา หรือ น้ำมันมะพร้าว วิธีคือกลั้วน้ำมันเหมือนการกลั้วน้ำยาบ้วนปาก กลั้วนานประมาณ 20 นาที จากนั้นบ้วนทิ้งแล้วกลั้วตามด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง หากกลิ่นน้ำมันยังติดอยู่ในปากให้ลองกลั้วด้วยน้ำเกลือแทนน้ำเปล่า ซึ่งวิธีนี้ควรทำก่อนการแปรงฟัน
- อย่าบริโภคน้ำตาลมากเกินไป
อย่างที่กล่าวไป น้ำตาลคือสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำร้ายฟันของเรา แต่หลายคนคงคิดว่าแค่หลีกเลี่ยงขนมหวานจำพวก เค้ก ลูกอม ของหวานตามร้านคาเฟ่แล้วจะปลอดภัยจากภัยน้ำตาล การกินอาหารจำพวกขนมปัง ถั่วบางชนิด ผลไม้ และมันฝรั่งเองก็ถือเป็นการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปเช่นกัน หรือถ้าคุณเป็นคนติดน้ำอัดลม หมากฝรั่ง หรือลูกอมชนิดขาดไม่ได้ ก็ลองเปลี่ยนเป็นชนิดที่ไร้น้ำตาลแทน
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
การแปรงฟันหลังตื่นนอนและก่อนนอนที่แทบทุกคนต้องปฏิบัติอยู่เป็นประจำนี่แหละ เป็นการป้องกันฟันผุได้อย่างเห็นผล เพราะฉะนั้นอย่าขี้เกียจแปรงฟันล่ะ
- การแปรงลิ้น
ลิ้นถือเป็นอวัยวะในช่องปากที่มีการสะสมแบคทีเรียมากเช่นกัน ดังนั้นอย่าให้ความสำคัญเฉพาะแค่การทำความสะอาดเหงือกกับฟันเท่านั้นล่ะ
- ใส่ใจกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ
การคอยตรวจสอบและสังเกตสุขภาพภายในช่องปากอยู่เสมอก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น สีของเหงือกเกิดการเปลี่ยนแปลง มีเลือดออกตามไรฟัน พบจุดเล็ก ๆ บนซี่ฟัน หรืออาการเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในช่องปาก เมื่อเจออาการผิดปกติควรรีบพบทันตแพทย์ทันที อย่าละเลยจนอาการเรื้อรังเด็ดขาด
- อย่าลืมใช้ไหมขัดฟัน
แปรงฟันอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะขนแปรงของเราอาจไม่ชอนไชเข้าไปทำความสะอาดตามไรฟันได้หมดจด ดังนั้นการใช้ไหมขัดฟันจะช่วยให้ขจัดเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการสะสมแบคทีเรียได้
- อย่าแปรงฟันแรงเกินไป
ไม่ควรออกแรงแปรงฟันมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดบาดแผลในช่องปากได้ ดังนั้นควรปฏิบัติตามขั้นตอนการแปรงฟันอย่างถูกวิธีที่ทันตแพทย์แนะนำ
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพฟัน
ผลิตภัณฑ์จากนมส่วนใหญ่รวมไปถึงชีส พบว่ามีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเกิดจุลินทรีย์และช่วยเคลือบผิวฟัน หรือการทานแอปเปิ้ล ซึ่งช่วยในการสร้างน้ำลาย เพื่อลดการเกิดแบคทีเรียในช่องปาก
- การดื่มชา
ชาเขียวและชาดำ เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเรื่องสุขภาพฟันได้ เพราะมีคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรียและป้องกันฟันผุ แต่ควรดื่มแบบไม่เติมน้ำตาลนะ
- พบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน
แม้เราจะหมั่นดูแลรักษาฟันอยู่เป็นประจำ แต่สิ่งสำคัญคือควรนัดตรวจสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันอาการเกี่ยวกับโรคภายในช่องปากที่เราไม่ทันระวังตัว นอกจากนี้เราอาจได้รับคำแนะนำในการดูแลฟันอย่างถูกวิธีจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้
(12617)