Katherine Johnson หนึ่งในนักคณิตศาสตร์ภาคพื้นหญิงของนาซา หนึ่งในตัวละครหลักที่ปรากฏในภาพยนตร์ Hidden Figures เสียชีวิตแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ในวัย 101 ปี
การคำนวณของ Johnson ช่วยให้ภารกิจการเหยียบดวงจันทร์ของนาซ่าเมื่อปี 1969 ประสบความสำเร็จ แต่ชื่อของเธอกลับไม่เป็นที่รู้จักนัก จนกระทั่งภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับชีวประวัติของเธอและเพื่อนเจ้าหน้าที่หญิงอีก 2 คน เข้าชิงรางวัลออสการ์เมื่อปี 2016
ในปี 2015 อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้มอบเหรียญเกียรติยศแห่งอิสรภาพให้กับเธอ หลังจากนั้น 2 ปี ขณะมีอายุได้ 98 ปี เธอได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีประกาศผลรางวัลออสการ์ที่หนังของเธอได้เข้าชิงรางวัล และได้รับเสียงปรบมือต้อนรับอย่างกึกก้อง
Johnson และเพื่อนร่วมงานเป็นผู้คำนวณจุดลงจอดบนพื้นโลกของ Alan Shepard ระหว่างการสร้างและทดสอบการบินระดับต่ำกว่าวงโคจร (Suborbital flight) ในโครงการเมอร์คิวรี เมื่อปี 1961 หลังจากนั้นเธอได้ใช้ความสามารถด้านคณิตศาสตร์คำนวณการลงจอดของยานอพอลโล 11 ที่ Neil Armstrong และ Buzz Aldrin ใช้เดินทางไปยังดวงจันทร์ในปี 1969
Jim Bridenstine ผู้บริหารองค์การนาซ่ากล่าวยกย่องว่า “เธอคือฮีโร่คนสำคัญที่สร้างความสำเร็จให้กับนาซ่า เราจะจดจำเธอตลอดไป เราคงไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้หากปราศจากเธอ” เขากล่าวต่ออีกว่าเธอไม่เพียงช่วยพวกเราในการสำรวจอวกาศครั้งสำคัญของชาติ แต่เธอยังเปิดประตูการทำงานให้กับเพศหญิงและคนผิวสีอีกด้วย
ในช่วงเริ่มต้นการทำงาน เธอใช้เพียงดินสอ กระดาษ และไม้บรรทัดสไลด์รูล เพื่อคำนวณว่าภารกิจใดที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เธอได้วางแผนเส้นทางของ John Glenn ซึ่งทำให้เขากลายเป็นคนอเมริกันคนแรกที่โคจรรอบโลกในปี 1962 ก่อนที่ภารกิจจะเกิดขึ้น เกล็นน์มอบหมายให้เธอเป็นคนตรวจสอบผลการคำนวณจากเครื่องคำนวณเชิงกลในคอมพิวเตอร์อีกครั้ง โดยเธอทุ่มเวลาในการทำงานนี้ตลอดเวลา 1 วันครึ่งจนกระทั่งได้คำตอบที่แม่นยำที่สุด
แคทเทอรีนมักจะบอกกับนักเรียนของเธอใจความว่า “ไม่ว่าอะไรจะสูญหายไป แต่ STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์) จะคงอยู่เสมอ”
เธอเกษียณจากนาซ่าในปี 1986 เดิมผู้หญิงผิวสีมักถูกแบ่งแยกไม่ให้ใช้โต๊ะอาหารหรือห้องอาบน้ำร่วมกับคนอื่น แต่ไม่ใช่ในนาซ่า เธอเคยกล่าวไว้เมื่อปี 2010 ว่า “นาซ่าเป็นองค์กรที่มีความเป็นมืออาชีพมาก พวกเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะให้ความสนใจสีผิวของฉันด้วยซ้ำ”
ที่มา Science alert
(11821)
