เมื่อเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว คุณจะเห็นคาตานะที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามและไร้ที่ติแม้จะมีอายุกว่า 1,000 ปี ดาบพิเศษนี้สร้างขึ้นโดย ซันโจ มุเนะจิกะ ที่รู้จักกันในนาม มิคาสึกิ มุเนะจิกะ (Mikazuki Munechika) เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักดาบฝีมือดีที่สุดคนหนึ่งของญี่ปุ่นในยุคเฮอัน (ค.ศ.794 – 1185) มุเนะจิกะชื่นชอบการประดิษฐ์ของเขามากจนใส่ชื่อของเขาไปในชื่อดาบ และเพิ่มคำว่ามิคาสึกิ ซึ่งเป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึง พระจันทร์เสี้ยว
ทำไมคาตานะนี้จึงมีชื่อว่าพระจันทร์เสี้ยว? มันเกี่ยวกับลวดลายที่พบบนใบมีด กระบวนการสร้างคาตานะต้องตีดาบที่ร้อนจัดและทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็ว เรียกว่าการทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็วและการอบคืนตัว เทคนิคนี้เสริมแกร่งและแข็งของเหล็ก ในการทำเช่นนั้นจะทำให้มีลายเอกลักษณ์บนวัสดุ ซึ่งมิคาสึกิ มุเนะจิกะ (Mikazuki Munechika) มีลายที่ดูเหมือนดวงจันทร์ครึ่งดวง
ในช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนาน คาตานะนั้นอยู่ในการครอบครองของผู้มีอำนาจบางคน เจ้าของเดิมคือ ขุนนางซามูไรสมัยศตวรรษที่ 16 โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) และโชกุนโทกูงาวะ (Tokugawa) ที่ปกครองในช่วงสมัยเอโดะ (ค.ศ.1600-1868)
มิคาสึกิ มุเนะจิกะ เป็นหนึ่งในดาบที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งที่ทำให้มันได้รับความนิยมคืออยู่ในสภาพที่น่าทึ่งหลังจากผ่านไป 1,000 ปี และถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว แต่หากไม่ถูกจัดแสดง คุณก็จะเห็นคาตานะที่น่าทึ่งอื่นๆเช่นกัน
ที่มา mymodernmet
(51164)