ทำความสะอาดแบบไหนจึงจะฆ่าเชื้อโรคได้หมดจด

ในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้มีผู้คนมากมายหาซื้อสารทำความสะอาดอย่างเจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์จนขาดตลาด และมีผู้ฉวยโอกาสผลิตเจลล้างมือที่ไม่ได้มาตรฐานออกมาจำหน่าย วันนี้เราจะไขข้อข้องใจว่า แอลกอฮอล์แบบไหนที่ปลอดภัย ใช้ได้จริง และมีสารทำความสะอาดใดอีกบ้าง ที่จะช่วยเรากำจัดเชื้อโรคร้ายนี้ได้

  • สบู่และน้ำ

การดูแลขั้นพื้นฐาน คนส่วนใหญ่จะใช้สบู่และน้ำเป็นอันดับแรกในการรักษาความสะอาด ผลการทดลองออกมาว่า สารฟอกในสบู่นั้นช่วยเคลื่อนย้ายเชื้อโรค แต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้โดยทันที จึงต้องฟอกเป็นระยะเวลาอย่างต่ำ 20 วินาที

 

  • ผงซักฟอก

ในผงซักฟอกมีสารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ ซึ่งช่วยกำจัดไวรัส ควรซักเสื้อผ้าโดยแช่ผ้าในน้ำที่ละละลายผงซักฟอกไว้ 10-15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด การทำงานของผงฟอกจะทำลายโปรตีนที่เคลือบผิวเซลล์ของไวรัสและแบคทีเรียออกไป ทำให้เชื้อโรคตายลง

  • เอทิลแอลกอฮอล์

จากการวิจัยโดยวารสาร Hospital Infection รายงานว่า แอลกอฮอล์สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ภายใน 30 วินาที มีระบบการทำงานคล้ายกับผงซักฟอก โดยแอลกอฮอล์จะทำลายชั้นโปรตีนภายนอกของไวรัสและแบคทีเรีย นอกจากนี้แอลกอฮอล์สามารถระเหยได้ด้วยตัวเองจึงไม่ต้องชะล้างหรือเช็ดออกแต่อย่างใด สำหรับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ที่เหมาะสมต่อการทำความสะอาด อยู่ระหว่าง 70-80% เนื่องจากแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูงเกินไป เมื่อโดนอากาศจะระเหยได้เร็ว จนมีระยะเวลาไม่นานพอที่จะฆ่าเชื้อโรคได้หมด

ทำไมต้องเอทิลแอลกอฮอล์? เอทานอล หรือเอทิลแอลกอฮอล์  โดยทั่วไปจะมีความเข้มข้นอยู่ที่ 95% เกิดจากการนำพืชจำพวกน้ำตาลและแป้งมาหมักเพื่อเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์ ซึ่งจะมีความปลอดภัยต่อร่างกายมนุษย์มากกว่า เมทานอล หรือเมทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งมีความเป็นพิษสูง นิยมใช้เป็นเชื้อเพลิงและเป็นส่วนประกอบในภาคอุตสาหกรรม

 

  • เจลล้างมือ

การพกเจลล้างมือสามารถเป็นอีกหนึ่งทางออกของการฆ่าเชื้อโรค โดยเจลล้างมือจะต้องมีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ 70 – 75% จึงจะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้เกือบทั้งหมด  แถมยังสามารถพกพาได้สะดวก และสามารถหยิบออกมาใช้หลังจากหยิบจับสิ่งของ หรือสิ่งสกปรกได้ทันทีอีกด้วย ในยามวิกฤตแบบนี้การทำเจลแอลกอฮอล์เองอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่อย่าลืมว่าแอลกอฮอล์ที่นำมาใช้จะต้องมีความเข้มข้นเริ่มต้นตั้งแต่ 95% ขึ้นไป เนื่องจากเมื่อนำมาผสมกับส่วนผสมอื่นแล้ว ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ก็จะลดลงไปด้วย ยิ่งส่วนผสมอื่นมาก แอลกอฮอล์ก็จะยิ่งเจือจาง

 

(745)