ภูมิปัญญาการเกษตรบนเกาะ Pantelleria

Pantelleria คือเกาะโบราณที่ตั้งอยู่บนช่องแคบแนวชายฝั่งทะเล ระหว่างแคว้นซิซิเลียและสาธารณรัฐตูนิเซีย มีภูมิอากาศแบบเขตเมดิเตอร์เรเนียน คือมีสภาพอากาศร้อนชื้น และอากาศหนาวที่ไม่รุนแรงมากนัก รวมถึงมีปริมาณฝนน้อยมาก ซึ่งทำให้การทำเกษตรเป็นไปอย่างยากลำบาก

แต่แทนที่ชาวเกาะจะประกอบอาชีพประมงเป็นส่วนใหญ่ พวกเขากลับประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นหลักและไม่มีใครทำการประมงเลย เพราะพวกเขาสามารถนำภูมิปัญญาที่มีคิดค้นและพัฒนาพื้นที่บนเกาะจนสามารถปลูกสวนส้มและองุ่นขาวได้เป็นผลสำเร็จ

ตัวอย่างการขุดหลุมสำหรับปลูกองุ่นบนเกาะ Lanzarote

ไร่องุ่นในเกาะแพนเทลเลอเรีย สามารถเติบโตได้โดยการใช้เทคนิคของชาวฟินิเชีย พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่เดินทางอพยพมาอยู่บนเกาะแห่งนี้เมื่อประมาณ 2,500 ปีก่อน ชาวสวนกลุ่มแรกได้สร้างพื้นที่เพาะปลูกไร่ไวน์ได้บนดินตื้นๆ โดยขุดให้เป็นหลุมทรงกลมเหมือนชามที่เรียกกันว่า ‘Conche’ และสร้างที่กำบังลมทะเลที่มีความรุนแรง ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นที่กันลมได้แล้ว มันยังสามารถกักเก็บความชื้นในดินเอาไว้ได้ด้วย

การปลูกองุ่นนั้นจำเป็นต้องอาศัยการเอาใจใส่และพิถีพิถัน เนื่องจากต้นองุ่นเป็นพืชที่จะสามารถเติบโตได้ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมเท่านั้น ทำให้เมื่อฤดูกาลอันเหมาะสมในการทำไร่องุ่นสิ้นสุดลงในเดือนกรกฎาคม พวกเขาจึงต้องหันไปปลูกพืชอย่างอื่นแทน

สภาพแวดล้อมและสภาพพื้นดินในแพเทลเลอเรียทำให้ต้นส้มของชาวสวนสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่เพราะต้นส้มนั้นมีลำต้นที่สูงกว่าองุ่นเป็นอย่างมาก ทำให้หลุมดินตื้นๆ ที่ขุดไว้ไม่สามารถทำให้พวกมันต้านลมได้ พวกเขาจึงต้องสร้างกำแพงกันลม โดยใช้หินมาเรียงเป็นกำแพงรูปวงกลมคล้ายกับบ่อน้ำ ทำประตูโค้งไว้สำหรับเข้า-ออก โดยเรียกกันว่า ‘jardinu’ ซึ่งช่วยให้สภาพอากาศด้านในถ่ายเทและเย็นอยู่ตลอดเวลา และช่วยรักษาความชื้นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ต้นส้มภายในกำแพงหินเจริญเติบโตได้อย่างอุดมสมบูรณ์

ข้อมูลจาก Amusingplanet

(1136)