สวนแห่งร่องรอยของสงครามโลก

          เมื่อวันที่ 20 กันยายน 1940 เพียงหนึ่งปีหลังจากที่กองทัพของฮิตเลอร์บุกโปแลนด์เพื่อก่อวิกฤติสงครามหกปี เครื่องบินเยอรมันทิ้งระเบิดเหนือกรุงลอนดอนอันเป็นส่วนหนึ่งของยุทธการเดอะบลิตซ์ เป้าหมายคือมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ด้วยความโชคดีนักบินได้คาดคะเนเส้นทางการเคลื่อนที่และการระเบิดพลาดจากโบสถ์  มันตกลงไปในจัตุรัสระหว่างคณะนักร้องประสานเสียงของมหาวิหารและ Morphet Terrace และทิ้งหลุมระเบิดขนาดใหญ่ไว้

หลุมระเบิดถูกปล่อยทิ้งไว้จนถึงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อ Mr. Hayes ผู้ดูแลของมหาวิหาร เริ่มเห็นความเป็นไปได้ในการทำสวน

สงครามโลกครั้งที่ 2 คล้ายกับครั้งแรก นำมาซึ่งการขาดแคลนอย่างรุนแรงของอาหาร, เสื้อผ้า, สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆของชีวิต และความสะดวกสบาย หลายครอบครัวที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลได้เริ่มปลูกอาหารของตนเองในแปลงเล็กๆ ที่สวนหลังบ้าน, สนามเด็กเล่น และสวนสาธารณะ สิ่งเหล่านี้ถูกเรียกว่า “สวนแห่งชัยชนะ” ซึ่งเป็นคำประกาศเกียรติคุณครั้งแรกโดย จอร์จวอชิงตันคาร์เวอร์ นักวิทยาศาสตร์การเกษตรชาวอเมริกัน นอกเหนือจากช่วยในการดำรงชีวิตแล้วยังช่วยเหลือสงครามทางอ้อมโดยสวนเหล่านี้ยังทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนด้านกำลังใจ เพราะมันทำให้ชาวสวนรู้สึกว่าได้รับพลังจากการทำงานและได้รับผลตอบแทนจากการปลูกพืช

“การขุดเพื่อชัยชนะ” ได้รับแรงผลักดันเคลื่อนไปทั่วอเมริกาและยุโรป ในสหราชอาณาจักร ที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น ที่อยู่ตามรางรถไฟ สวนไม้ประดับและสนามหญ้าถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่เพาะปลูก ส่วนหนึ่งของสนามหญ้าในสวนไฮด์ถูกไถเพื่อปลูกผัก ในขณะที่หัวหอมเติบโตในเงาของอนุสรณ์อัลเบิร์ต ทั้งพระราชวังบักกิ้งแฮมและปราสาทวินด์เซอร์ต่างก็มีสวนผักเช่นกัน

Mr. Hayes ไม่ใช่คนเดียวที่เห็นโอกาสนั้น ชาวลอนดอนที่ร่ำรวยคนหนึ่งในพื้นที่ Bayswater ทางตะวันตกของลอนดอน บ้านของเขารอดจากการระเบิดอย่างหวุดหวิด เขาจึงเปลี่ยนหลุมระเบิดที่เกิดขึ้นให้กลายเป็นสวนสำหรับปลูกพืชผักและดอกไม้

เวียดนามยังแสดงให้เห็นถึงไหวพริบในช่วงความขัดแย้ง ในช่วงสงครามเวียดนามซึ่งกินเวลาเกือบสองทศวรรษ สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดรวมกันกว่า 7 ล้านตันในเวียดนาม ลาว และกัมพูชา มากกว่าสามเท่าของที่สหรัฐฯทิ้งระเบิดที่ยุโรปและเอเชียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง การทิ้งระเบิดในชนบททำให้เกิดหลุมระเบิดขนาดใหญ่ ซึ่งชาวบ้านเปลี่ยนเป็นบ่อน้ำเพื่อเลี้ยงปลา

บ่อเลี้ยงปลาในหลุมระเบิดที่ประเทศเวียดนาม

 

ที่มา amusingplanet

(698)