‘สะพานสัตว์ป่า’ เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นทางข้ามของสัตว์ป่า หรือ Wildlife crossing ที่เป็นทางข้ามระหว่างถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่ากับท้องถนนที่เป็นทางสัญจรหลักของมนุษย์ ทางข้ามสัตวฺป่านี้อาจจะมีลักษณะเป็นท่อลอดของด้านใต้ถนน อุโมงค์ลอด หรือจะเป็นบันไดปลาก็ได้ สะพานข้ามถนนสำหรับสัตว์ป่านี้ถูกสร้างด้วยแนวคิดในการอนุรักษ์สัตว์ป่าเป็นหลัก หากมนุษย์ยังต้องมีทางข้ามเพื่อความปลอดภัย สัตว์ป่าก็ต้องการสิ่งปลอดภัยเหล่านี้เพื่อปกป้องชีวิตของพวกมันเหมือนกัน
ล
ทางข้ามสำหรับสัตว์ป่า ถูกสร้างเป็นครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศสราวๆ ยุค 1950 ซึ่งในความเป็นจริง กลุ่มประเทศทางแถบยุโรปเป็นผู้นำในการคิดถึงเรื่องสะพานสัตว์ป่า เพื่อที่จะอนุรักษ์และรักษาจำนวนสัตว์ป่าที่ถูกคร่าชีวิตจากสาเหตุการถูกรถชน โดยเฉพาะในประเทศเนเธอแลนด์ เพียงประเทศเดียว ก็มีการสร้างทางข้ามสำหรับสัตว์ป่าไปแล้วถึง 66 แห่ง พวกเขาสามารถรักษาชีวิตสัตว์ป่าไว้ได้อย่างมากมาย และนักสังคมสงเคราะห์สัตว์แห่งสหรัฐอเมริกาได้รายงานว่า ยังมีอุโมงค์มากกว่า 600 แห่งในประเทศเนเธอแลนด์ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนก่อสร้าง
และในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาประเทศแคนนาดาและประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ใช้ทางข้ามสัตว์ป่าเหล่านี้ในรักษาและคุ้มครองชีวิตสัตว์ป่าของพวกเขาไว้ได้อย่างมากมาย อย่างเช่น ในอุทยานแห่งชาติ Branff ในรัฐ Alberta ประเทศแคนาดา ก็มีเครือข่ายสำหรับอุโมงค์และสะพานข้ามสัวต์ป่าเพื่อที่จะสามารถขยายการสร้างสิ่งเหล่านี้ เพื่อคุ้มครองเหล่าสัวต์ป่าให้เพิ่มขึ้นได้ โดยพวกเขาได้ดำเนินโครงการนี้มานานกว่า 25 ปีแล้ว
แต่หากคุณคิดว่าทางข้ามเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพียงเพื่อสำหรับสัตว์ป่าที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะว่าได้มีโปรเจ็คต์การออกแบบทางข้ามสำหรับสัตว์ป่าไว้ใช้ในหลายๆรูปแบบ เช่นสะพานบนอุทยานแห่งชาติบนเกาะคริสต์มาส ประเทศออสเตรเลียสามารถช่วยชีวิตฝูงปูแดงไว้ได้ถึง 50 ล้านตัวในการข้ามถนน ซึงตรงกับเส้นทางการย้ายถิ่นฐานประจำของพวกมัน ขณะเดียวกันในวอชิงตันก็มีสะพานเชือก ‘Nutty Narrows Bridge’ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางข้ามให้กับฝูงกระรอกโดยเฉพาะ
สะพานแสนมหัศจรรย์เหล่านี้ได้ช่วยรักษาชีวิตของสัตว์ป่าไว้ได้อย่างมากมาย ซึ่งการคิดเริ่มโปรเจ็คต์นี้ถือเป็นการให้ความสำคัญต่อการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์ ป่าและสัตว์ป่า เพราะสัตว์ป่าถือเป็นระบบนิเวศที่สำคัญสำหรับป่า เมื่อองค์ประกอบของระบบนิเวศสมบูรณ์ ป่าก็จะสมบูรณ์เช่นกัน และยังมีสะพานสัตว์ป่าอีกหลายแห่งที่อยากจะให้ทุกคนได้รู้จักและรับรู้ประโยชน์ของมัน
1.Flathead Indian Reservation Montana, USAสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตรัฐ Montana ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเขตที่เป็นแหล่งที่พักอาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองของอมเริกัน 3 ชนเผ่า เป็นที่ยอมรับกันตั้งแต่ปี 1855 ว่าพื้นที่กว่า 1,938 ตารางไมล์ ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สัตว์ป่าสงวนที่ห้ามไม่ให้ผู้ใดก็ตามสามารถจับหรือล่าสัตว์ป่าสงวนของพื้นที่นี้ได้ พื้นที่แห่งนี้เป็นบ้านของสัตว์ป่ามากกว่าร้อยสายพันธ์ ทั้งสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์ปีก สะพานข้ามแห่งนี้จึงกลายเป็นสะพานสำคัญในการรักษาจำนวนสัตว์ป่าแห่งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการลดลงของจำนวนสัตว์ป่าที่มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุรถชนได้
2.Animal crossing ในอุทยานแห่งชาติ Banff, Alberta, Canadaประเทศแคนาดา ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการให้ความสำคัญต่อสัตว์ป่าสงวนภายในประเทศของพวกเขาเป็นอย่างมาก อุทยานแห่งชาติ Banff ตั้งอยู่ที่เมือง Alberta ประเทศแคนาดา เพื่อที่จะปกป้องจำนวนประชากรสัตว์ป่าจากเส้นทางการจราจรอันวุ่นวายจากเส้นถนนสายหลัก จึงได้เริ่มมีโครงการการสร้างทางข้ามสำหรับสัตว์ป่าโดยเฉพาะ ซึ่งในตอนนี้อุทยานแห่งชาติ Banff ได้มีทางลอดอุโมงค์ใต้ถนนจำนวน 6 แห่ง และทางข้ามเหนือถนนถึง 38 แห่ง
3.Highway A50 Netherlands ถนนไฮเวย์ A50 เป็นถนนที่วิ่งตัดผ่านระหว่างเมือง Eindhoven, Den Bosch, Oss, Nijmegen, Arnhem, Apeldoorn และ Zwolle ซึ่งถือเป็นถนนสายหลักที่วิ่งตัดผ่านเมืองเกือบทั้งหมดของประเทศเนเธอร์แลนด์ และด้วยการใช้ความเร็วของรถบนท้องถนนที่มีความเร็วถึง 50 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้วยความเร็วในระดับนี้ทำให้มันกลายเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบติเหตุรถชนและรวมไปถึงการที่รถยนต์พุ่งชนเข้ากับสัตว์ป่าด้วย ซึ่งสิ่งนี้อาจจะกลายเป็นสาเหตุการลดลงของจำนวนสัตว์ป่า ประเทศเนเธอแลนด์จึงได้มีการสร้างสะพานข้ามถนนสำหรับสัตว์บนถนนเส้นหลักนี้
4.B38 Birkenau, Germanyสะพานข้ามถนนแห่งนี้สร้างอยู่บนถนนไฮเวย์ B38 ประเทศเยอรมัน แต่ด้วยการดีไซน์ของสะพาน ทำให้สะพานสัตว์ป่าแห่งนี้ไม่มีขอบป้องกันทำให้สัตว์ที่กำลังเดิมข้ามสะพานอาจตกลงมาจากสะพานได้ แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น แต่อย่างน้อยมันก็สามารถช่วยป้องกันและรักษาชีวิจของสัตว์ป่าและผู้คนไว้ได้จำนวนมาก
5.Crab Bridge Christmas Island, Australiaเกาะคริสต์มาส เป็นบ้านของเจ้าปูแดงที่มีประชากรนับพันตัว ซึ่งเจ้าพวกปูแดงเหล่านี้จะมีการโยกย้ายถิ่นฐานของพวกมันเป็นประจำทุกปี นี่จึงกลายเป็นสะพานที่ถูกสร้างเอาไว้ให้พวกปูแดงเหล่านี้ไว้ใช้เดินทางนั่นเอง
6. Compton Rd Queensland, Australia ทางข้ามแห่งนี้เต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่มของพืชพันธ์จากป่า ซึ่งสร้างอยู่เหนือถนน Compton รัฐ Queensland ประเทศออสเตรเลีย ออกแบบมาให้มีความคล้ายคลึงกับพื้นที่ป่าให้มากที่สุด เพื่อที่จะให้สัตว์ป่าสามารถเดิมข้ามสะพานแห่งนี้ได้โดยง่าย
7.Ecoduct de Borkeld A1 Rijssen, Netherland ทางข้ามนี้เขื่อมต่อกับเขตสงวนธรรมชาติ De Borkeld บนสายถนน A1 ตั้งแต่แรกเริ่มที่มีการสร้างถนนเส้นนี้ขึ้นมา ทางเนเธอแลนด์ต้องการให้ถนนเส้นนี้ไม่ไปทำลายหรือสร้างความรบกวนให้กับธรรมชาติโดยรอบเท่าที่จะเป็นไปได้
8.E314 Genk, Belgiumนี่คือถนนที่มีความยาวถึง 125 กิโลเมตร ถนนเส้นนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นถนนเส้นหลักที่เชื่อมต่อถึง 3 ประเทศ คือ เบลเยี่ยม, เนเธอแลนด์และเยอรมัน นักออกแบบสะพานนี้ได้ตั้งใจออกแบบให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อที่เหล่าสัตว์ป่าจะสามารถใช้ทางข้ามนี้ได้อย่างสะดวกสบาย
9.Interstate 78 New Jersey, USAสะพานข้ามสัตว์ป่าแห่งนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในลิสต์ของผู้ชื่นชอบในความร่มสงบและความสุนทรีย์ไม่น้อย ทางข้ามนี้ตั้งอยู่บนถนน Interstate 78 รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา สะพานแห่งนี้สามารถป้องกันรถจากสัตว์ป่าและสาเหตุการเกิดอุบติเหตุรถชนได้เป็นอย่างดี
10.Keechelus Lake Washington, USA
ทะเลสาบ Keechelus เป็นส่วนหนึ่งของลุ่มแม่น้ำโคลัมเบีย มีถนนเชื่อมต่อระหว่างรัฐสาย 80 ตั้งอยู่ ซึ่งระยะทางของถนนเส้นนี้มักจะเป็นถนนเรียบชายฝั่ง ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยเส้นทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม สะพานแห่งนี้จึงถูกสร้างมาเพื่อปกป้องธรรมชาติอันสมบูรณ์นี้
(3224)