เด็กที่มีผู้ปกครองเข้มงวดอาจกลายเป็นเด็กโกหก

Philippa Perry ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตบำบัด เผยว่าเด็กที่มีผู้ปกครองเข้มงวดอาจกลายเป็นเด็กโกหก โดยเด็กจะรู้สึกไม่ปลอดภัยหากพูดความจริงไม่ดีออกไป ดังนั้นเด็กที่มีพ่อแม่ที่เข้มงวดจะพูดแต่สิ่งดี ๆ ซึ่งจะทำให้กลายเป็นเด็กที่โกหก

5 วิธีสอนเด็กๆให้รู้จักการรอคอย วิธีง่ายๆสำหรับพัฒนาและฝึกฝนลูกน้อยให้มีความอดทนและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี

  1. มีเวลาในการจินตนาการ เด็กๆส่วนมากเริ่มมีความคิดเป็นรูปเป็นร่าง เมื่ออายุได้ 9 ปี ทำให้เรียนรู้สิ่งต่างๆได้รวดเร็วขึ้น สามารถแบ่งแยกสิ่งต่างๆ และ วิเคราะห์เหตุผลได้ดีขึ้น เพราะเหตุนั้นคุณควรปล่อยให้ลูกได้มีเวลาคิดและจิตนาการสิ่งต่างๆด้วยตนเองโดยไม่ไปขัดขวางความคิดของพวกเขาและวิธีที่มีประโยชน์ในการฝึกฝนก็คือคุณควรพูดหรือบอกเล่าสิ่งต่างๆให้เด็กๆได้คิด,ได้จินตนาการรวมถึงวิเคราะห์หาเหตุผลด้วยตัวเองซึ่งการรอคอยนั้นจะไม่ทำให้เด็กๆเกิดความหงุดหงิดหรือกังวลใจแต่อย่างใด หากคุณสอนให้เด็กๆสามารถเปรียบเทียบสิ่งง่ายๆได้ เช่น เด็กๆมีความรู้สึกว่า “อื้อ เดี๋ยวการรอคอยนี้ก็ผ่านไปได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับการแปลงฟันนั่นแหละ”
  2. สอนให้เด็กๆทำกิจกรรมง่ายๆที่สามารถทำคนเดียวได้ อย่างมีความสุข มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้การเล่นคนเดียวเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเด็กๆ และหนึ่งในเหตุผลที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ ทำให้เด็กๆได้รู้จักการสร้างความสุขง่ายๆ ได้คิดอะไรด้วยตนเองได้ตลอดเวลา จินตนาการของเด็กไม่มีขอบเขตและกิจกรรมเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีการจัดเตรียมหรืออุปกรณ์พิเศษใด ๆ
    สิ่งที่ไม่ควรให้เด็กๆเล่น เช่น สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต สาร์ทโฟนและแท็บเล็ตนั้นมีโปรแกรมอัตโนมัติที่ถูกออกแบบไว้แล้วซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ขัดขวางการคิดวิเคราะห์และการจินตนาการของเด็กๆ
    สิ่งที่ควรให้เด็กๆเล่น เช่น จิ๊กซอว์, การล่าขุมทรัพย์, การสร้างนิทาน, การเล่นตามบทบาทต่างๆในนิทานที่ชื่นชอบ
    มีหลายวิธีที่จะสอนให้เด็กๆได้เล่นอย่างอิสระและผลลัพธ์ก็เป็นที่น่าพึงพอใจ แถมยังเป็นการฝึกความอดทนและการคิดวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย
  3. สอนเกมส์ง่ายๆ เวลาคุณอยู่นอกบ้าน มันน่าเบื่อเสมอสำหรับเด็กที่จะรอรถบัสหรือรอแม่กลับมาจากร้านค้า สำหรับโอกาสที่น่าเบื่อเหล่านี้ มีวิธีที่ยอดเยี่ยมในการหันเหความสนใจของพวกเขาไม่ให้เบื่อระหว่างการรอคอยได้อย่างมีประสิทธิภาพและดีต่อการพัฒนาการของเด็กๆอีกด้วย
    เกมส์ง่ายๆนี่ก็คือ:ผู้เล่น (พ่อ/แม่ กับ ลูกๆ) ต้องทำความเข้าใจและตกลงกันว่าจะเลือกมองหาสิ่งของรอบๆตัวว่าจะเลือกลักษณะไหน เช่น สี,รูปร่าง หรือ ตัวอักษร และคนแรกที่มองหาสิ่งที่ตกลงกันไว้ได้ครบตามจำนวนที่กำหนดก่อน (นับ 10-20 อย่าง) ก็จะสามารถเรียกร้องความต้องการของตนได้  ตัวอย่าง เช่น นับรถสีแดงที่ขับผ่านในขณะที่รอที่ป้ายรถเมล์หรือป้ายขณะเดินทาง ใครนับได้ถึง 20 คันก่อนก็จะเป็นฝ่ายร้องขอความต้องการของตนได้ (ซึ่งพ่อหรือแม่ ก็ควรจะแกล้งยอมแพ้ลูกๆบ้างเพื่อให้เค้าได้เกิดความภาคภูมิใจบ้าง)
    ทริคง่ายๆที่ทำให้เด็กๆยอมเล่นด้วย : ประการแรกคือ ต้องเป็นเกมส์ที่เด็กๆให้ความสนใจมากซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนเกมส์ได้ตามอายุของเด็ก ต่อมานั้นพ่อแม่ที่ร่วมเล่นก็ควรจะชนะบ้าง แกล้งยอมแพ้บ้าง เพื่อให้เด็กๆเกิดความภาคภูมิใจในชัยชนะบ้าง และ ยอมรับการพ่ายแพ้บ้าง โดยให้กำลังใจและขนมเล็กๆน้อยๆตอบแทนเด็กๆ
  4. สอนกฏง่ายๆ ไม่ให้เด็กๆรบกวนคุณ ขณะทำงานหรือการใช้สมาธิทำสิ่งต่างๆ บล็อกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Allison Hendrix ซึ่งเป็นคุณแม่ลูก 2 ได้เขียนกฏขึ้นเพื่อให้เหล่าลูกๆจอมซนของเธอรบกวนระหว่างการทำงาน ซึ่งเป็นกฏที่เรียบง่ายและแฝงไปด้วยความฉลาดหลากแหลม
    กฏคือ : เมื่อเด็กต้องการจะพูดอะไรบางอย่างในขณะที่พ่อหรือแม่กำลังพูดคุยกับคนอื่นอยู่ พวกเขาต้องทำแค่เอามือของเขาไปแตะมือหรือแขนของพ่อแม่ หากพ่อหรือแม่นำมือมาแตะกลับนั่นหมายความว่าพ่อแม่เข้าใจแล้วและลูกๆของเธอนั้นสามารถเข้าร่วมการพูดคุยได้เลย หากพ่อแม่ไม่ตอบรับใดๆ นั่นหมายความว่าให้ฟังและอดทนรอสักครู่
    ทำไมกฏนี้ถึงได้ผลหละ? : การไม่ละเลยการติดต่อกับเด็กๆ ทำให้เห็นได้ชัดว่าเด็กๆกำลังได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพในสิทธิของพวกเขาและไม่ถูกละเลยจากพ่อแม่ ทำให้เด็กๆรู้จักอดทนและรู้สึกได้รับความรักจากพ่อแม่อย่างสม่ำเสมอ
  5. การรอคอยเหตุการณ์สำคัญๆ เช่น วันเกิด หรือ วันคริสมาสต์ แม้ว่าเด็ก ๆ จะเรียนรู้ที่จะไม่ขัดจังหวะผู้ใหญ่และหาอะไรทำสนุกๆได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ยังยากสำหรับพวกเขาที่จะรอวันสำคัญที่น่าตื่นเต้นนี้ เช่น วันคริสต์มาส,วันเกิด,วันหยุดพักผ่อนเป็นต้น จะช่วยพวกเขาอย่างไร? : ปฏิทิน Advent จะสามารถช่วยให้การรอคอยสั้นลงได้ (Advent Calendar เป็นปฏิทินสำหรับเทศกาลหรือโอกาสพิเศษต่างๆ ซึ่งเอาไว้ใช้นับเวลาก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญ ยกตัวอย่าง เช่น ในเดือนธันวาคม ผู้คนก็จะนิยมแจก Advent Calendar เพื่อนับเวลาก้าวเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาสนั่นเอง) โดยในวันต่างๆตั้งแต่ วันที่ 1 ถึงก่อนวันที่จะถึงเทศกาลของปฏิทิน Advent นี้ จะมีขนมชิ้นเล็กๆ หรือ ของเล่นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้เด็กๆรู้สึกมีความสุขกับการรอคอยและตั้งแต่หน้าตั้งตารอให้วันสำคัญเหล่านั้นมาถึง เพื่อจะได้ของเล่นหรือขนมที่ดีกว่า

(1122)