พายุทอร์นาโดพัดถล่มสหรัฐอเมริกา มีรายงานพายุทอร์นาโดมากกว่า 30 ลูกพัดเข้าถล่มใน 6 รัฐ คืออาร์คันซอ อิลลินอยส์ เคนทักกี มิสซูรี มิสซิสซิปปี และเทนเนสซี เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยระยะทางที่ถูกโจมตีมีความยาว 400 กิโลเมตร และหากพายุทำลายล้างนั้นแท้จริงแล้วเป็นพายุลูกเดียวกัน มันจะกลายเป็นเส้นทางพายุทอร์นาโดที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ในทันที
ในเคนทักกีมีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 70 คน และมีอาคารบ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก รวมถึงโรงงานเทียน Mayfield Consumer Products ซึ่งมีพนักงาน 110 คนกำลังทำงานอยู่ นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย ในโกดังของอเมซอนทางตะวันตกของอิลลินอยส์ และในสถานพยาบาลในอาร์คันซอ
สาเหตุของการเกิดพายุ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปกติในแถบมิดเวสต์ ซึ่งอาจประสบกับอุณหภูมิที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในสัปดาห์นี้ประมาณ 22.2 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเกิดขึ้น
แม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจะยังไม่เปิดเผยระดับความรุนแรงอย่างเป็นทางการ แต่จากความเสียหายจากพายุทอร์นาโดที่พัดถล่มเมืองเมย์ฟิลด์ รัฐเคนทักกี พบว่าเศษซากถูกดึงขึ้นไปในอากาศสูงกว่า 9,100 เมตร และบ้านเรือนก็ถูกแยกออกจากฐานรากอย่างชัดเจน
เหตุการณ์รุนแรงนี้ถือเป็นเรื่องน่าตกใจของนักอุตุนิยมวิทยา และทำให้ผู้อยู่อาศัยในประเทศที่มีพายุทอร์นาโดมากที่สุดในโลก ต้องระมัดระวังตลอดทั้งปี เนื่องจากเดิมทอร์นาโดมักจะเกิดขึ้นเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ แต่มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวที่มีสภาพอากาศอบอุ่นขึ้น
(64)
