ค้นพบงูชนิดใหม่ที่กัดคุณได้โดยไม่ต้องอ้าปาก!

ในป่าดิบชื้นของประเทศกินีและประเทศไลบีเรีย นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบงูสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถแพร่กระจายพิษได้โดยไม่ต้องอ้าปาก

งูชนิดนี้มีลักษณะพิเศษที่มีเฉพาะในงู Stiletto  เท่านั้น ซึ่งก็คือเขี้ยวยาวที่สามารถเข้าและออกจากมุมปาก และทำให้พวกมันสามารถฉกศัตรูจากด้านข้างได้ ซึ่งเหมาะกับการพุ่งโจมตีในระยะไกลและศัตรูแสนเจ้าเล่ห์ แม้แต่กับผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลานก็อาจถูกโจมตีได้ง่าย

ผู้ชำนาญด้านสัตว์ป่าจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติกรุงเบอร์ลิน( Berlin’s Natural History Museum) พบว่า การจับงูชนิดนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ไม่อ้าปากก็กัดได้

นักวิจัยพบสายพันธุ์นี้ครั้งแรกโดยบังเอิญในป่าของไลบีเรีย มันเลื้อยไปตามเนินเขาอันมืดมิดของป่าดงดิบ แต่เมื่อพวกเขาพยายามจับมันด้วยวิธีปกติโดยการใช้นิ้วมือจับด้านหลังหัวงู ซึ่งนั่นมันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย เนื่องจากมันจะยังสามารถกัดเราได้จากการจับในลักษณะนี้ มันมักจะป้องกันตัวด้วยการเลื้อยหนีอย่างช้าๆ ขดตัวเป็นวงและคลายตัว รวมถึงกระโดดในระยะทางที่เกือบจะเท่าความยาวลำตัว คล้ายกับงูหมาป่าใน

ตระกูล Lycophidion

พ่นพิษไม่อ้าปาก

Rodel et al., Zoosystematics and Evolution, 2019

** คำเตือน: มีภาพของแผลงูกัดด้านล่าง

พิษขอบมันไม่ได้ร้ายแรงถึงชีวิต แต่ก็สามารถสร้างบาดแผลฉกรรจ์ได้ โดยพิษจะเข้าไปทำลายเซลล์บริเวณที่ถูกกัด ทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง บวมพอง และบางครั้งก็สร้างความเสียหายแก่เนื้อเยื่อจนสูญเสียนิ้วได้ หากไม่รู้จักวิธีป้องกันพิษ

บาดแผลจากพิษ

(Myke Clarkson)

ทีมนักวิจัยเดินทางไปเก็บรวบรวมตัวอย่างเพิ่มอีกสองตัวอย่าง ซึ่งพบในไร่กาแฟและไร่กล้วยห่างกันประมาณ 27 กิโลเมตร ทางตอนใต้ของประเทศกินี และอธิบายลักษณะของพวกมันไว้ว่ามีลำตัวเรียวยาวและมีหัวกลมมนขนาดเท่าลำตัว

งูสายพันธุ์ใหม่นี้ถูกตั้งชื่อว่า Atractaspis branchi หรือ Branch’s stiletto  ปัจจุบันเป็นที่รู้จักอย่างน้อย 21 ชนิด  ส่วนใหญ่จะพบได้ในทวีปแอฟริกา ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา

นักวิจัยสันนิษฐานว่างู Stiletto มีถิ่นเฉพาะในป่าฝนตอนบนของประเทศกินี รวมถึงในภูมิภาคที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์อย่างภาคตะวันตกเฉียงเหนือของไลบีเรีย แต่พวกมันกำลังใกล้สูญพันธุ์จากการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำการเกษตร เหมืองแร่ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าภูมิภาคนี้เป็นศูนย์กลางของความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์เพียงใด แต่เหล่านักวิจัยยังคงพยายามต่อไปในการสำรวจและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกมัน เพื่อให้เราได้รู้จักแหล่งที่อยู่ อุปนิสัย และทักษะต่าง ๆ ของพวกมันให้มากยิ่งขึ้น

 

(19324)